จริงเหรอ! ควายตัวละ 70 ล้านบาท เร็วๆมาดูกัน
วันที่ 13 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงาน ว่า พบมีการโพสต์ – แชร์ใน โลกออนไลน์ Tik tok โดยผู้ใช้คือ นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ระบุข้อความ – ว่า จริงเหรอ! ควายตัวละ 70 ล้านบาท เร็วมาดูกัน โดย ในภาพ Tik tok พบนายอำเภอบ้านสร้าง พร้อมกับ นายพรหมพิริยะ หรือเอก สอนศิริ เจ้าของฟาร์ม ได้นำชม ควายเผือกตัวเดียวในประเทศไทย ชี่อ “เจ้าแก้วฟ้า” ที่ราคามูลค่าทางพันธุ์กรรมเพียงตัวเดียว ราคาสูงลิบลิ่วถึง 70 ล้านบาท ..
.. “สอนศิริฟาร์มควายไทย” เลขที่ 61/1 หมู่ 2 ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี มี นายเขมชาติ สอนศิริ อายุ22 ปี หรือ โทนี่ อายุ 22 ปี ลูกชาย – ทายาท เจ้าของฟาร์ม พร้อมด้วย นายธนุวัฒน์ เมืองจันทร์ ปลัดอำเภอบ้านสร้าง , บุญส่ง จิตหาญ ปศุสัตว์อำเภอบ้านสร้าง และ นายชัยดิษฐ์ ค่ำอำนวย เกษตรอำเภอบ้านสร้าง ได้พานำเยี่ยม – ชมฟาร์ม บนพื้นที่ 70 ไร่
พบในฟาร์ม มีโรงเลี้ยงควายทั้งหมด 9 โรงเลี้ยง และ เลี้ยงเป็นฟาร์มแบบ ระบบปิดแห่งแรกในประเทศไทย มีควายไทย อยู่ทั้งหมด 300 กว่าตัว โดยแบ่งเป็น แม่พันธุ์ 200 ตัว และ ที่เหลือจะเป็น พ่อพันธุ์ และ ลูกควาย โดยเฉพาะที่นี่ มีพ่อแม่พันธุ์ ควายไทยชั้นเลิศ ใช้ในการผสมลูกควายคุณภาพเพื่อจำหน่ายสู่ตลาด ซึ่งพ่อแม่พันธุ์ราคามูลค่าพันธุกรรม มากกว่า 70 ล้านบาท จำนวน 2 ตัว (ชื่อแก้วฟ้า กับ มณีแดง)
ปัจจุบัน “สอนศิริฟาร์มควายไทย” ได้รับมาตรฐานฟาร์ม ออกให้โดย กรมปศุสัตว์ โดยขึ้นชื่อว่า เป็น “ฟาร์มควายไทยรูปแบบการเลี้ยงประณีต ภายใต้ระบบปิดที่ได้มาตรฐาน” รวมถึงเป็นฟาร์มต้นแบบ และถือเป็นศูนย์การเรียนรู้ ดูงาน จากคณะฯ และสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้เข้าชมงานและวิธีการเลี้ยงและขยายพันธุ์ควายไทย รวมถึงเกษตรกรและประชาชนผู้สนใจทั่วไปอีกด้วย..
นายเขมชาติ กล่าวว่า ฟาร์มนี้มีการจำหน่ายทั้ง พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และลูกควาย รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์จากควาย คือ อาทิ เช่น นมควาย รวมทั้ง มีการเพาะพันธุ์ควาย เพื่อการประกวด และนำมาชม พญาควายเผือก “เจ้าแก้วฟ้า” อายุ 10 ปี ที่ทางฟาร์ม ได้ซื้อมาเลี้ยงตั้งแต่ ตอนอายุ 3 ปี มีลักษณะเด่น เป็นควายสีเผือก ลำตัวสูง ยาว ใหญ่ และเขาใหญ่ กว่าควายทั่วๆไป และมีความสูงถึง 168 ซม.วัดจากเท้าถึงโหนกที่อยู่ข้างหลัง มีน้ำหนักตัวถึง 1,400 กิโลกรัม และมีลักษณะนิสัยคือใจดีไม่ดุดันเหมือนควายทั่วๆไป ซึ่งคนทั่วไป สามารถเข้าเยี่ยมชมได้
นายเขมชาติ กล่าวต่อว่า เริ่มแรกฟาร์มเคยเพาะพันธุ์วัวและม้ามาก่อนแต่ไม่ตอบโจทย์ เนื่องจากสายพันธุ์ที่ดีต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ตนเองมองว่าควายไทยเป็นสายพันธุ์ของประเทศไทย และเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองที่ดีที่สุด ที่เราสามารถไปสู้กับตลาดโลกได้ จึงได้เปลี่ยนจากการเพาะวัว มาเป็นควายในวันนี้เป็นเวลา 8 ปีแล้ว ในส่วนของ น้องแก้วฟ้า เริ่มแรกในปี พ.ศ.2558 มีควายอยู่ 40 ตัว และอยากได้พ่อพันธุ์ที่ดีมาพัฒนาสายพันธ์ที่ฟาร์มก็ไปเจอแก้วฟ้าที่งานประกวด และเป็นจังหวะที่เจ้าของอยากขายด้วยเลย ซื้อแก้วฟ้ามาในราคา 750,000 บาท
ลักษณะเด่น คือ เป็นควายสีเผือก มีลำตัวใหญ่ หนา สูง 168 ซม. น้ำหนัก 1,400 กก. และควายสีดำในเมืองไทยตอนนี้ไม่สามารถมีตัวไหนที่ใหญ่เท่าแก้วฟ้าได้ ในส่วนของลูกแก้วฟ้านั้นที่มีอยู่ในฟาร์มตอนนี้ ถ้าเป็นตัวสีดำเริ่มราคาเริ่มต้นที่ 350,000 บาท ถ้าเป็นสีเผือกราคาเริ่มต้นที่ 450,000 บาท และลูกของแก้วฟ้าราคาสูงสุดที่เคยจำหน่ายได้คือ 1,500,000 บาท แต่ลูกของแก้วฟ้าตอนนี้ก็มีตัวที่ราคาสูงอยู่แต่ทางฟาร์มยังไม่ขายจะเก็บไว้ประกวดเพื่อโชว์สายพันธุ์ของแก้วฟ้าต่อไป
ในส่วนของราคาน้องแก้วฟ้านั้น วัดจากมูลค่าที่มีอยู่ในฟาร์มปัจจุบันนี้คือตั้งไว้ 2,000,000 เหรียญ ซึ่งทางราคานั้นตั้งไว้คือ ทางฟาร์ม มีแม่พันธุ์ 200 ตัว ผลิตลูกปีละ 1 ตัว ถ้าลูกเป็นตัวเมียเริ่มต้นราคา 300,000 บาท ถ้าเป็นตัวผู้ 200,000 บาท เฉลี่ยคือ 2,500,000 บาท เฉพาะลูกของแก้วฟ้า 1 ปีก็ 200 ตัว ก็คูณไป ก็จะได้ปริมาณการเงินเท่านี้ แต่ถ้ามีคนมาขอซื้อตนก็ยังไม่ขายเพราะแก้วฟ้าเป็นควายตัวเดียวในประเทศไทยและในโลกที่มีพันธุกรรมที่โดดเด่นที่สุด..
จากนั้น ยังได้พามาชม พ่อพันธุ์หนุ่มสุดร้อนแรงตัวที่ 2 อย่าง ‘มณีแดง’ ควายไทย อายุ 7 ปี ที่มีรูปร่างบึกบึน แถมยัง กวาดรางวัลแกรนด์แชมป์ ตามรอยเจ้าแก้วฟ้าไปแบบติดๆ โดยน้ำเชื้อของพ่อพันธุ์ควายทั้งคู่ ควายเผืก และ ควายดำ ( มณีแดงและ แก้วฟ้า) สามารถทำราคาได้มาก ถึงโดสละกว่า 1,000 บาท รวมๆ แล้ว เป็นรายได้ให้กับ สอนศิริฟาร์ม ได้มากสูงถึงปีละหลายล้านบาท แก้วฟ้า และ มณีแดง คือ ความภาคภูมิใจของ สอนศิริฟาร์มควายไทย พร้อม เชิญชวนให้พี่น้องเกษตรกร หันมาให้ความสำคัญ และ ใส่ใจทุกกระบวนการเลี้ยง เพื่อให้ได้ผลผลิตตามที่คาดหวัง และ ทำให้ควายไทยมีคุณภาพ สามารถส่งออกสู่ตลาดต่อไปได้ในอนาคต
รายได้อีกช่องทางหนึ่ง คือ การรีดนมควาย (ผลิต) รูปแบบพาสเจอร์ไรซ์ (ชนิดขวด) และ ส่งจำหน่ายให้แก่ร้านค้าตัวแทน และพ่อค้ารับซื้อทั่วไป ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยคุณเอกบอกว่าการผลิตนมควายส่งจำหน่ายถือเป็นรายได้สำคัญของฟาร์ม ในขณะนี้ เพราะสามารถแปรรูปและต่อยอดตลาดผลิตภัณฑ์จากนมควายได้หลากหลายไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งปัจจุบันการรีดนมควายแพ็คเกจจิ้ง และ เตรียมส่งจำหน่ายสามารถสร้างรายได้เฉลี่ย/วัน ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท
นอกจากการขายลูกควาย และการแปรรูปผลิตภัณฑ์น้ำนมควายแล้ว ปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ “สอนศิริฟาร์มควายไทย” เตรียมแตกไลน์ ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปและเพิ่มมูลค่าจากน้ำนมควายอีกมากมายได้แก่ ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ต ผลิตภัณฑ์มอซซาเรลลาชีส และไอศกรีมนมควาย เป็นต้น ภายใต้แบรนด์ “สยามบัฟมิลค์” (SIAM BUFF MILK) ใครอยากแวะไปเที่ยวชม หรือซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็เข้าไปที่ฟาร์มได้ ฟาร์มเปิด 8.30 – 17.00 น. พิกัด : ใกล้กับ องค์การบริหารส่วนตำบลบางยาง ( อบต. ) อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี.
ขอบคุณhttps://www.banmuang.co.th/news/region/280393
https://www.google.com/..B8%84%E0%B8%A7%E0%B8…
https://www.google.com/..B8%84%E0%B8%A7%E0%B8…