..ในปัจจุบันตลาดชายแดนด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-เมียนมา ได้มีสินค้าร่มติดรถจักรยานยนต์วางจำหน่ายและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยสินค้าดังกล่าวผลิตจากประเทศจีน และส่งวางจำหน่ายตามร้านค้าต่างๆ ซึ่งตามปกติจะจำหน่ายสินค้าชายแดนที่หลากหลาย เช่น เสื้อผ้า ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ราคาถูก
โดยสินค้าร่มติดรถจักรยานยนต์ดังกล่าวมีการพัฒนาจากรุ่นเดิมๆ ที่ใช้พลาสติกแข็งทำให้ติดตั้งได้ยากมาเป็นโครงโลหะอ่อนควบคู่กับพลาสติกอ่อนที่ทำให้ยืดหยุ่นได้
ส่วนร่มก็ใช้ผ้าใบตามปกติที่ออกแบบให้มีสีสันเพื่อทำให้เป็นที่นิยมและมีส่วนที่เป็นพลาสติกใสเพื่อให้มีทัศนียภาพในการมองเห็นได้รอบด้านอีกด้วย ขณะที่การติดตั้งบนรถจักรยานยนต์ก็ทำได้ง่ายกว่าเดิมโดยเพียงแต่นำส่วนตะขอเกี่ยวกับด้านท้ายรถและโค้งงอร่มเพื่อนำตะขอไปเกี่ยวกับด้านหน้ารถก็จะได้ร่มติดรถจักรยานยนต์ที่มีน้ำหนักเบาสามารถขับขี่ไปมาได้โดยไม่บัดบังการมองเห็นและยังสะดวกสบาย สามารถป้องกันได้ทั้งฝนและลมที่พัดมาด้านหน้าเหมือนรถยนต์ได้อีกด้วย
ด้าน น.ส.ซาง แสงสุข อายุ 26 ปี แม่ค้าจำหน่ายร่มตลาดชายแดน อ.แม่สาย รายหนึ่งกล่าวว่าในปัจจุบันร่มติดรถจักรยานยนต์ดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะเป็นฤดูฝนและมีฝนตกลงมาเกือบทุกวัน ทำให้ผู้ขับขี่ต้องการความสะดวกสบายไม่ต้องเปียกฝนทำให้ผู้ผลิตจากประเทศจีนส่งสินค้าชนิดนี้ไปยังตลาดชายแดนได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ซึ่งช่วงแรกๆ จำหน่ายชิ้นละประมาณ 500-600 บาท แต่ต่อมาได้รับความนิยมมากทำให้ส่งสินค้ามามากขึ้นปัจจุบันจึงมีราคาลดลงเหลือเพียงชิ้นละประมาณ 280-400 บาทแล้วแต่เกรดของสินค้า ทั้งนี้หลังจากมีสินค้าชนิดนี้ส่งไปทางร้านสามารถจำหน่ายได้สูงสุดละตั้งแต่ 20-30 ชิ้นเลยทีเดียว
นางเสาร์คำ ไทใหญ่ ลูกค้าคนหนึ่งที่ไปซื้อร่มติดรถจักรยานยนต์ กล่าวว่าร่มชนิดนี้ทำให้ได้รับความสะดวกกว่าการใช้ร่มเวลาขับขี่รถจักรยานยนต์เพราะเราไม่ต้องถือร่มให้ปวดแขนหรือถูกลมพัดปลิว รวมทั้งยังสามรถกันฝนได้ดีกว่าพราะผ้าใบจะคลุมได้ทั้งตัวทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย
ล่าสุด..นักกฏหมาย ชี้แจงว่ามีความอันตรายเป็นอย่างมาก เพราะมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ถูกออกแบบให้นำวัสดุมาติดไว้เพื่อต้านลม กรณีนี้ร่มที่ผลิตมามีความต้านลมจึงทำให้เกิดอันตรายได้หากเจอพายุแรงๆ และอาจถูกพลัดปลิวจนทำให้รถเกิดเสียหลักได้ และเป็นเรื่องผิดกฎหมายหากไม่ได้รับอนุญาติจากนายทะเบียน ตามพรบ.รถจักรยานยนต์ระบุไว้ว่ารถจยย.มีการจดทะเบียนไว้ในรูปแบบใดก็ต้องอยู่ในสภาพนั้น ถ้ามีการดัดแปลงสภาพก็ต้องไปแจ้งกับเจ้าพนักงานและนายทะเบียนก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถสัญจรในทางสาธารณะและทางหลวงได้.
เครดิต : prachachat
http://www.grandprix.co.th/%E0%B8%A3%E0..