นายกฯแถลงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ “วันที่ 26 มี.ค.63” โดยวันนี้ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวแต่อย่างใด
24 มี.ค.63พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า จะประกาศใช้ “พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน” เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันที่ 26 มี.ค.63 เบื้องต้นกำหนดระยะเวลา 1 เดือน
-พรก.ฉุกเฉินที่ประกาศออกมาเป็นเพียงระยะที่ 1 เพื่อลดการแพร่บาดเชื้อไวรัสฯ โดยเบื้องต้นเป็นการขอความร่วมมือ เน้นตั้งด่าน ยังไม่เคอร์ฟิวหรือห้ามออกจากบ้าน ส่วนจะปิดหรือบังคับเป็นระยะต่อไป
-หลังจากนี้จะมีการจัดตั้งคณะทำงานที่รับผิดชอบรวมทั้งประกาศข้อกำหนดต่างๆ โดยเบื้องต้นประกาศข้อกำหนดจะเกี่ยวข้องกับการสกัดกั้นการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19เป็นหลัก
-มีการยกระดับศูนย์โควิดเป็นศูนย์ฉุกเฉินในการแก้ไขปัญหา เป็น ศูนย์อำนวยการฉุกเฉิน หรือ “ศอฉ.โควิด” มีหน้าที่รวมกฎหมายทุกอย่างที่มีมาอยู่ที่นายกรัฐมนตรี เพื่อบูรณาการอย่างแท้จริง โดยจะมีการประชุมทุกเช้า เพื่อนำข้อเสนอจากทุกส่วน มารายงานและกำหนดข้อกำหนดเมื่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
–มีการจัดตั้งผู้รับผิดชอบภายในศูนย์ว่าจะจัดตั้งและมีข้อกำหนด ที่ออกข้อกำหนดได้ตลอดเวลา ออกได้ทุกวัน
–เตือนหากมีการใช้สื่อโซเซียลที่ปิดเบือนจะมีความผิด รวมถึงการขึ้นราคาสินค้าก็จะถูกดำเนินคดีด้วย
-ขออย่าเพิ่งเดินทางกลับภูมิลำเนา หากกลับจะต้องเจอมาตรการต่างๆในการตรวจสอบระหว่างทางอีกมากมาย
-ขออย่าตื่นตระหนกให้เป็นปัญหา ฟังข่าวสารมี 2 ช่องทางแต่ละวัน ทั้งทางโซเชี่ยล และศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ มาแถลงทั้งวัน ให้สอบถามให้ตรงกับเวลาดังกล่าว แล้วโฆษกของ ศอฉ. จะสรุปประเด็นสำคัญของแต่ละวันให้ทราบ ขอให้รับฟังช่องทางของรัฐบาลเป็นหลัก.
1. จะเริ่มต้นการใช้ พ.ร.ก ฉุกเฉิน ในวันที่ 26 มีนาคมนี้เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนเมษายน
2. จะมีการยกระดับศูนย์ข้อมูลด้านโควิด เป็นศูนย์ฉุกเฉินเพื่อแก้ปัญหาโควิด หรือเรียกว่า ศอฉ.โควิด และมีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อทำข้อกำหนดต่อไป กฎหมายทั้งหมดจะมาอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งข้อกำหนดต่าง ๆ สามารถออกได้ทุกวัน
3. มีการกำหนดเวลาในการเปิด-ปิดสถานที่ ซึ่งจะเป็นมาตรการต่อไป
4. ประชาชนที่ต้องการเดินทางออกจากบ้าน หรือเดินทางข้ามจังหวัด จะมีการคัดกรองอย่างเข้มงวด มีการตั้งด่าน จุดตรวจ สกัด
5. มีการสร้างโรงพยาบาลสนามและพื้นที่กักตัวขนาดใหญ่
6. มีการตรวจสอบข้อมูลเท็จที่แพร่กระจายตามสื่อต่าง ๆ โดยกำชับสื่อมวลชนและสื่อโซเชี่ยลต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนนำเสนอสู่สาธารณะ
7. เรื่องการชดเชยนั้น คนที่อยู่ในประกันสังคม จะได้รับสิทธิประโยชน์ ส่วนคนที่เป็นแรงงานนอกระบบ ก็จะได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน
8. จะกำหนดให้มีมาตรการทางการเงินเข้าระบบ พ.ร.ก.การคลัง ภาษี
9. จัดซื้อ จัดหาเวชภัณฑ์เพื่อใช้ในการปฎิบัติการให้เพียงพอ
10. ให้ประชาชนรับฟังข้อมูลข่าวสารจากรัฐบาลเป็นหลัก
11. ด้านการเงิน จะให้เป็นหน้าที่ของธนาคารของรัฐเป็นผู้ให้ข้อมูล
12. พิจารณาให้หลักการประกันสังคมครอบคลุมผู้อยู่นอกระบบด้วย
13. ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวแต่อย่างใด.
ที่มา-https://www.posttoday.com/politic/news/618613
ฐานเศรษฐกิจ