ยูทูป » ข่าวล่าสุด..หนุ่มแว่นหัวร้อนด่ากราด..ดูถูกคนไทยว่าชั้นต่ำทั้งประเทศ..ชาวบ้านเกือบพันแห่ดูหน้าอื้อ

ข่าวล่าสุด..หนุ่มแว่นหัวร้อนด่ากราด..ดูถูกคนไทยว่าชั้นต่ำทั้งประเทศ..ชาวบ้านเกือบพันแห่ดูหน้าอื้อ

24 ตุลาคม 2019
1194   0

เปิดคลิปหนุ่มแว่นหัวร้อนด่ากราด..ดูถูกคนไทยว่าชั้นต่ำทั้งประเทศ..ชาวบ้านเกือบพันแห่ดูหน้าอื้อ

เปิดคลิปหนุ่มหัวร้อน รถเก๋งป้ายแดงประสบอุบัติเหตุ เจ้าตัวฉุนจัดไม่ยอมฟังใคร ด่ากราดดูถูกคู่กรณีไม่มีปัญญาชดใช้ ลามไปถึงคนไทยทั้งประเทศ ลั่นเป็นพวกชั้นต่ำ !!..

กลายเป็นคลิปวิดีโอที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในขณะนี้ (23 ตุลาคม 2562) กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก โต้ เจ็ทโด้ ได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ขณะรถเจ้าตัวที่เป็นกระบะประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถหนุ่มคู่กรณี โดยระบุว่าตนเองไม่ได้ผิด ฝ่ายที่ผิดคือรถยนต์คู่กรณีที่เป็นรถยนต์ป้ายแดง พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “กลับรถไม่ดูรถ มาทางตรงเลยน่ะเสี่ย ลงมาด่ากูยับเลย ไม่ตะบันหน้าให้ก็บุญแล้ว”

โดยสาเหตุที่คลิปดังกล่าวกลายเป็นที่วิจารณ์ในสังคม เนื่องจากหนุ่มตี๋เจ้าของรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ป้ายแดง ที่ไม่ยอมรับผิด ซ้ำด่าและดูถูกคู่กรณี มีการพูดจาโอ้อวดว่าตัวเองรวย มีบ้าน มีรถ ซึ่งบางช่วงบางตอนหนุ่มตี๋ได้ถามคู่กรณีว่ามีเงินกี่ล้าน กูมีเงินออม 1 ล้านบาท มีบ้านราคา 5 ล้าน มีรถขับคันละล้านสอง ตั้งแต่ตอนอายุ 24 ปี พวกขับกระบะขับแย่ทุกคัน ก่อนจะด่าคนไทยชั้นต่ำทั้งประเทศ กูเกลียดประเทศไทย และบอกให้ถอดสัญชาติไปเลย..

ทั้งนี้ แม้แฟนสาวที่นั่งมาด้วยจะพยายามไหว้ขอโทษเจ้าของโพสต์ และพูดจาดีเพื่อเคลียร์เหตุการณ์ แต่กลับถูกหนุ่มตี๋ตะคอกกลับว่าอย่าไปไหว้มัน “ขยะสังคม”

ด้านนักแสดงหนุ่ม แทค ภรัณยู ก็ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีดังกล่าว โดยฝากถึงหนุ่มป้ายแดงในคลิปว่า “ผมอยากคุยด้วยครับ ผมเห็นคลิปแล้วอยากทาเบตาดีนครับ #คนดูถูกคนแบบนี้ผมชอบนะอยากจะคุยด้วยว่าคิดอะไรอยู่ถึงพูดไป #อวดโน้นนี้ #รถชนก็ขอโทษกันเรียกประกันแค่นี้ก็จบไม่ต้องมาข่มหรืออวด #เกลียดจริงๆๆ”..


ข่าวล่าสุด..

..ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงที่สุดกับกรณีหนุ่มแว่นหัวร้อน เจ้าของรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค เข้ามาต่อว่ารถกระบะคู่กรณี ด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมพูดจาเชิงดูถูกคู่กรณีรวมไปถึงคนไทยว่าด้อยพัฒนา อีกทั้งยังยื่นข้อเสนอเรียก 1 ล้านบาทเป็นการชดใช้

โดยพ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.พุทธมณฑล ได้สั่งตามล่าหาตัวนายรชฎ หวังกิจเจริญสุข หนุ่มแว่นหัวร้อน คนดังกล่าว เนื่องจากมีความผิดเข้าข่ายดูหมิ่น จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง ซึ่งคำพูดของนายรชฎ มีทั้ง “อย่าไปไหว้คนอย่างมัน ขยะสังคม”/ “มีปัญญาซื้อรถไหม”
“มีเงินออมสินเป็นล้านให้ดูเลย”/ “คนขับกระบะแย่ทุกคน”/ “ผมดูถูกด้วยความเต็มใจ”/“คนไทยชั้นต่ำทั้งประเทศ”/ “ลูกเศรษฐีรู้จักหรือเปล่า” /“ตำรวจฉันไม่แคร์ ฉันมีนายตำรวจอยู่ข้างหลัง”/“ประเทศไทยฉันไม่แคร์” /“ฉันเรียนต่างประเทศมาเป็น 10 ปี”/“คนไทยมันด้อยพัฒนา

ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. นายรชฎ หวังกิจเจริญสุข หนุ่มแว่นหัวร้อน ได้เดินทางมายัง สภ.พุทธมณฑล เพื่อเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.กัมปนาท ที่ สภ.พุทธมณฑล โดยมีบิดา มารดา และแฟนสาวที่อยู่ในเหตุการณ์เดินทางมาด้วย จากนั้นได้เข้าให้การกับผู้กำกับการฯ ในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นโดยมี พ.ต.ท.บุญพา ปาละแม รองผู้กำกับการสอบสวน หัวหน้าพนักงานสอบสวนฯ เข้าสอบปากคำด้วยตัวเอง ท่ามกลางสื่อมวลชนที่เข้ามาทำข่าว

โดยที่ สภ.พุทธมณฑล ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนประมาณ 500 – 600 คนมารวมตัวกันที่หน้า สภ. โดยตะโกนด่าเพราะไม่พอใจพฤติกรรมตามที่ปรากฏในคลิป โดยบางคนมาจากไกลจากสมุทรปราการก็มี หลายคนบอกว่าอยากจะมาดูหน้าคนที่ดูถูกคนไทย และบอกว่าหากไม่อยากเป็นคนไทยให้ย้ายออกไปอยู่ต่างประเทศได้

ซึ่งพ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการจังหวัดนครปฐม เดินทางมาที่ สภ.เพื่อประเมินสถาณการณ์ และขอกำลังตำรวจจากภาค 7 และจังหวัดนครปฐมมาดูแลรักษาความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงใดขึ้น

จนกระทั่งเวลา 02.48 กลุ่มประชาชนที่มาดักรอต่างทยอยเดินทางกลับออกไป จนสถานการณ์บริเวณหน้าสภ. พุทธมณฑล กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ส่วนในห้องสอบสวนเมื่อสอบปากคำเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนได้ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ และได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายรชฏ ในข้อหา ในมาตรา 393 ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยบิดาของนายรชฏ บอกว่าบุตรชายได้ไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ 6 ขวบและเพิ่งกลับมาจากประเทศฝรั่งเศสประมาณ 1 ปี คงไม่ชินกับประเทศไทยและเป็นคนรักรถมาก และไม่ได้กล่าวอะไรมากนักในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าว โดยได้รับกับพนักงานสอบสวนว่าลูกชายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เคยได้รับการรักษาอาการที่โรงพยาบาลมนารมย์ บางนา ซึ่งตอนนี้ได้ยังรับประทานยา ESIDEP 10 Mg โดยได้เอามาแสดงต่อหน้า ผู้กำกับการตำรวจ สภ.พุทธมณฑลด้วย

ขณะที่นายรชฏ ได้กล่าวขอโทษและอธิบายว่า เรื่องทั้งหมดเกิดจากที่ตัวเองเป็นคนรักรถ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงทำให้เกิดความเครียด ประกอบกับอาการป่วยที่เป็นอยู่ ทำให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จนเรื่องราวบานปลาย พร้อมกันนี้ก็ได้กราบขอโทษสังคมที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ซึ่งในวันนี้ (24 ต.ค.) จะมีการส่งตัวไปที่ศาลแขวง เพื่อส่งดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป โดยหากไม่มาจะมีการออกหมายจับกุมทันที

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายรชฏ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กโดยระบุว่า ผมต้องขออภัยพี่น้องชาวไทยด้วยนะครับ ขอโทษพี่ๆน้องๆคนไทยทุกท่านและขอโทษคุณน้องคู่กรณีด้วยครับ และขอโทษที่ผมกล่าวล่วงเกินสถาบันกษัตริย์ ตอนนี้ผมกับน้องเจรจากันเรียบร้อยแล้ว ผมยินดีรับผิดชอบและชดเชยสินไหมน้ำใจให้น้องไปแล้วครับ ผมขอร้องให้จบเรื่องนี้ไว้เพียงเท่านี้เถอะครับ เรื่องราวทั้งหมดผมขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ภรรยาผมไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยครับ ผิดที่ผมคนเดียว ผมยอมรับผิดคนเดียว ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ

ต่อมา มีรายงานว่า นายนันทวัฒน์ กมลรัมย์ คนขับรถกระบะ ได้เดินทางมาพบกับ พันตำรวจโทบุญพา ปาละแม รองผกก.สอบสวน เพื่อให้ปากคำสำหรับการดำเนินคดีกับนายรชฏ

ซึ่งก่อนหน้านี้นายนันทวัฒน์ ได้เปิดเผยว่า ตนก็พูดกับเขาดีๆ แต่เขาพยายามเข้าถึงตัวตลอด โดยพูดจาไม่ดี มีคำหยาบออกมาตลอด โดยสาธยายเรื่องความร่ำรวยของตนเองตลอดเวลา พร้อมกับดูถูกตน และด่าตลอดเวลา ขนาดประกันของทางเขามา เขาก็ด่าเหมือนกัน ตนก็ใจเย็นสุดๆ แล้ว.

ขอบคุณ- https://hilight.kapook.com/view/195276
-ข่าวอรุณอมรินทร์