คณะรัฐมนตรี(ครม.27 สิงหาคม2562) ได้อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2562/2563 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยโครงการประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าว ครม.อนุมัติงบประมาณวงเงิน 21,495 ล้านบาทเพื่อใช้ในการประกันรายได้เกษตรกรที่ปลูกข้าว 5 ชนิด ซึ่งมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรปลูกข้าวปี 2562 จำนวน 892,176 ครัวเรือน ระยะเวลาดำเนินโครงการเดือนตุลาคม 2562 – ตุลาคม 2563 ประเภทข้าวที่ได้รับประกัน ได้แก่..
►ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน,
►ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่(ข้าวหอมจังหวัด) 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน,
►ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน,
►ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
►ข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
.. เกษตรกรผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชย คือ ผู้ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2562/63 กับกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ โดยเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)โดยตรงหากราคาตลาดต่ำกว่าราคาประกันรายได้
ส่วนโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ครม.ได้อนุมัติงบประมาณวงเงิน 13,378 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ขึ้นทะเบียน 300,000 ราย ระยะเวลาโครงการ สิงหาคม 2562 – กันยายน 2563
ทั้งนี้ ผลปาล์มทะลายที่เข้าโครงการจะต้องมีคุณภาพน้ำมัน 18% ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้วอายุไม่น้อยกว่า 3 ปี เช่นเดียวกันเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรงหากราคาตลาดต่ำกว่าราคาประกันรายได้
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบแนวทางการดำเนินการบริหารปาล์มน้ำมันทั้งระบบซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของหลายกระทรวงเพื่อเร่งเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศและควบคุมปริมาณน้ำปาล์มล้นตลาด เช่น การใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อการผลิตไฟฟ้าโดยเร่งรัดการจัดซื้อน้ำปาล์มดิบส่วนที่เหลือ 133,750 ตัน เพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกงให้ครบ 200,000 ตัน ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์
รวมถึงส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลโดยเห็นชอบให้กระทรวงพลังงาน เร่งดำเนินการปรับดันให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 เป็นน้ำมันดีเซลมาตรฐานภายในสิ้นปี 2562 จากเดิมที่เป็น B7 และสนับสนุนให้ใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 และ B7 เป็นทางเลือก
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ถ้าทำสองแนวทางนี้ได้ตามเป้าหมายจะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มมีราคาที่สูงขึ้นได้อย่างแน่นอน นางสาวรัชดา รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ.