อาการปาล์มน้ำมัน การขาดธาตุอาหาร และวิธีแก้ไข
ไนโตรเจน (N)
ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต ทำให้ต้นใหญ่ โตเร็ว แต่ถ้าได้รับในปริมาณมากเกินไป ทำให้ต้นอ่อนแอ ทางใบอวบน้ำ มีความต้านทานโรคน้อยลง ถ้าขาดจะมีลักษณะใบสีเหลืองซีด อาการที่พบได้ชัดเจนคือ ใบย่อยของทางใบล่างจะเหลือง ต่อไปจะเหลืองทั้งต้น ทางใบสั้นแกร็น ต้นโตช้า ทะลายเล็กลง ปริมาณน้ำมันน้อย มักเกิดกับดินน้ำท่วมขัง ดินระบายน้ำไม่ดี ดินทรายจัด ดินที่มีหญ้าคาเยอะ จะแสดงอาการขาดไนโตรเจนอย่างชัดเจน
การสูญเสียของไนโตรเจนที่ระเหิดไปกับแดด มักเกิดกับไนโตรเจนในรูปของยูเรีย โดยถ้าเกิดการแล้ง แดดจัดติดต่อกันประมาณ 4 วัน ยูเรียจะระเหิดหายไปประมาณ 40-60% ใช้แม่ปุ๋ยไนโตรเจนในรูป คือ แอมโมเนียมไนเตรท ซึ่งเป็นไนโตรเจน จะไม่ระเหิดหายกับแดด ปาล์มน้ำมันนำไปใช้ได้ทันทีในรูปไนเตรท (ปลดปล่อยจังหวะที่ 1 ) และกินต่อเนื่องยาวนานด้วยแอมโมเนียม(ปลดปล่อยช้าๆจังหวะที่ 2 ) ที่สำคัญคือ การนำไนเตรทไปใช้ในปาล์มน้ำมัน จะพ่วงเอาโพแทสเซียมขึ้นไปพร้อมกันด้วย เรียกว่า โพแทสเซียมไนเตรท ช่วยให้ปาล์มน้ำมันที่ติดลูกแล้วลูกเบ่งโต ทะลายใหญ่ เปอร์เซนต์น้ำมันสูง น้ำหนักดี…: www.108kaset.com เรียบเรียง
.
ฟอสฟอรัส(P)
เป็นธาตุอาหารที่ปาล์มน้ำมันต้องการมากเป็นอันดับ 4 ช่วยกระตุ้นการแตกรากฝอย ทำให้ปาล์มสามารถดูดปุ๋ยได้ดีขึ้น และทำหน้าที่ในการเคลื่อนย้ายธาตุอาหารที่ได้จากการสังเคราะห์แสงไปสะสม มีส่วนทำให้ออกดอกได้ดีขึ้น และการติดดอกของปาล์มน้ำมันสมบูรณ์ ถ้าขาดฟอสฟอรัส จะทำให้ปาล์มชะงักการเจริญเติบโต ทรงพุ่มมีลักษณะ คล้ายปิรามิด ใบสีเขียวด้านเหลือบม่วงขอบใบม่วง ออกดอกน้อย ยอดสั้นลง ใบหญ้าคาที่ขึ้นบริเวณโคนต้นจะเป็นสีม่วง ฟอสฟอรัสถูกตรึงได้ง่ายจากดินที่เป็นกรด ดินที่มีธาตุอลูมิเนียม และธาตุเหล็ก.
โพแทสเซียม (K)
เป็นธาตุอาหารที่ปาล์มน้ำมันต้องการมากที่สุด ช่วยเพิ่มผลผลิตทำให้ปาล์มสะสมแป้งและเปลี่ยนเป็นน้ำมันได้มาก ให้ผลผลิตและเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง และมีบทบาทสำคัญในการเปิดปิดปากใบ ทำให้ทนแล้งได้ดี ถ้าขาดจะมีจุดสีเหลืองส้มเป็นจ้ำ ๆ บริเวณทางใบ เมื่อเป็นมาก ๆ เนื้อใบส่วนที่มีสีเหลืองจะแห้ง การผลิตดอกตัวเมียจะหยุดชะงัก ดอกตัวผู้ไม่สมบูรณ์ ทางใบหดสั้น ทะลายเล็ก เปอร์เซ็นต์น้ำมันลดลง ไม่ทนแล้ง.
แมกนีเซียม (Mg)
เป็นธาตุอาหารรอง แต่ปาล์มน้ำมันมีความต้องการมากเป็นอันดับ 3 ช่วยในการสังเคราะห์แสง ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างอาหารด้วย หากขาดจะทำให้ดูดซึมอาหารน้อยลง ต้นอ่อนแอ มีการใช้ธาตุอาหารอื่นๆ ได้น้อยลง เนื่องจากไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ดี ลักษณะอาการขาดแมกนีเซียม ใบย่อยทางใบล่างจะมีสีเหลืองแถบยาว แต่เส้นใบยังเป็นสีเขียว โดยเฉพาะใบที่ได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง ถ้าขาดรุนแรงใบจะสีส้มทั้งใบ และแห้งตายเป็นหย่อม หากไม่แก้ไขใบจะเริ่มแห้ง ไหม้ และผลผลิตลดลง
โบรอน (B)
.. เป็นธาตุอาหารเสริม ปาล์มน้ำมันต้องการน้อย แต่ขาดไม่ได้ ถ้าขาดจะแสดงอาการทันที โบรอนช่วยกระตุ้นให้เกิดตาดอก และตายอด ทำให้การผสมเกสรสมบูรณ์แบบ เมื่อขาดโบรอน ปาล์มจะมีลักษณะปลายใบย่อยหักงอเป็นรูปตะขอ ใบหยิกเป็นคลื่น ยอดหัก ทางและใบย่อยเรียวแหลม สั้นผิดปกติ ดอกตัวเมียน้อย การผสมเกสรไม่สมบูรณ์ ผลผลิตลดลง ทะลายปาล์มจะมีเมล็ดลีบ
อาการนี้จะพบมากในพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันภาคใต้ สาเหตุเพราะฝนที่ตกชุกจะชะล้างธาตุอาหารบนผิวดิน ทำให้โบรอนบนผิวดินโดนชะล้างไปด้วย.
อาการ N/K ไม่สมดุล(ไนโตรเจน &โพแทสเซียม มากหรือน้อยเกินไป)
.. ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ค่อนข้างจะยังใหม่สำหรับบ้านเรา หลายๆสวนยังไม่ทราบว่า ปาล์มน้ำมันต้องการธาตุอาหารตัวใด ปริมาณเท่าใด และธาตุอาหารใดทำหน้าที่แบบใดกับปาล์มน้ำมัน ทำให้นิยมใส่สูตรเสมอ หรือแม่ปุ๋ยในอัตราส่วนที่ไม่ตรงกับความต้องการของปาล์ม เมื่อใส่ไปหลายๆรอบ ต้นปาล์มจะแสดงอาการโดย เกิดเส้นสีขาว 2 เส้น บริเวณใบย่อย นั่นคือสิ่งที่ปาล์มน้ำมันบอกเราว่าได้รับไนโตรเจนมากเกินไป ให้ลดไนโตรเจน แล้วใส่ โพแทสเซียมเพิ่มมากขึ้น…: www.108kaset.com เรียบเรียง