โลกโซเชียล » คลิป: รอยร้าวตามบ้านหรือตึกสูง อันตรายขนาดไหน? บ้านจะพังได้เลยมั้ย?

คลิป: รอยร้าวตามบ้านหรือตึกสูง อันตรายขนาดไหน? บ้านจะพังได้เลยมั้ย?

29 มีนาคม 2025
66   0

คลิป: รอยร้าวตามบ้านหรือตึกสูง อันตรายขนาดไหน? บ้านจะพังได้เลยมั้ย?

สาเหตุของรอยร้าวเกิดจากอะไร

บ้าน และอาคารโดยส่วนใหญ่จะต้องประสบพบเจอกับปัญหารอยร้าวผนังขึ้นมาเมื่อถึงจุดใดจุดหนึ่ง รอยแตกบนผนังส่วนใหญ่จะเป็นรอยแตกร้าวที่เกิดจากการทรุดตัวตามธรรมชาติ เพราะตัวอาคารจะมีการขยับ และขยายตัว เพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดรอยแตกร้าวเล็กน้อยบนผนัง ..

โดยบริเวณที่พบเห็นได้บ่อยคือรอยร้าวบริเวณมุมหน้าต่าง และบานประตู แต่ก็มีสาเหตุอื่นๆ ด้วยเช่นกันที่ก่อให้เกิดรอยร้าว โดยเกิดจาก

  • รอยร้าวที่เกิดจากความชื้น
  • รอยร้าวที่เกิดจากการทรุดตัวของการขุดดิน
  • มีการคำนวณการรองรับน้ำหนักของอาคารที่ผิดพลาด
  • การเติบโตของรากต้นไม้
  • การสั่นสะเทือนของการจราจรบนท้องถนน
  • มีการติดตั้งท่อระบายน้ำเสีย
  • สภาพภูมิอากาศ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ก่อให้เกิดรอยร้าวผนังเท่านั้น รอยแตกร้าวอาจเกิดมาจากหลายปัจจัยรวมกัน เช่น การก่อสร้างบนพื้นที่ทรุดตัว ส่งผลทำให้กำแพงอิฐโครงสร้างภายในโค้งงอ และผลลัพธ์ก็คือรอยร้าวตามผนังต่างๆ

ต่อไปมาดูประเภทของรอยร้าวผนังเพื่อให้คุณได้ประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นกัน..

ลักษณะและประเภทของรอยร้าว

(1) รอยร้าวผนังแบบแตกลายงา

รอยร้าวแบบแตกลายงา เป็นรอยร้าวผนังที่สามารถพบเห็นได้บ่อยมากที่สุด โดยสาเหตุหลักๆ มาจาก

  • การผสมปูนที่ไม่ได้สัดส่วน
  • การฉาบปูนจากช่างที่ไม่มีความชำนาญมากพอ
  • ไม่ได้บ่มน้ำก่อนฉาบปูนกับวัสดุอย่างอิฐมวลเบาที่มีความยืดหยุ่นกว่าอิฐปกติ ซึ่งเมื่อก่ออิฐมวลเบาเสร็จต้องมีการพรมน้ำบนอิฐและทิ้งไว้ 7 วันก่อนลงมือฉาบปูน แต่หลายคนอาจจะข้ามขั้นตอนตรงนี้ไปเพราะใช้ระยะเวลานาน จึงก่อให้เกิดรอยร้าวบนผนังแบบลายงาได้

โดยรอยร้าวลักษณะนี้ไม่เป็นอันตราย ไม่ส่งผลต่อโครงสร้างภายใน แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานเพราะเมื่อเกิดฝนตก ผนังจะกักเก็บความชื้นไว้ ทำให้ผนังบวม เกิดปัญหาสีลอกร่อน และเชื้อราได้ แนะนำให้อุดโป๊วด้วย วอลล์ พุตตี้ (Wall Putty) ทีโอเอ อะคริลิก ฟิลเลอร์ (TOA Acrylic Filler) ซึ่งเป็นอะคริลิกอุดโป๊วสีขาว เปิดใช้ได้ทันที เมื่อโป๊วเสร็จแล้วสามารถทาสีทับได้ นอกจากนี้ยังไม่ทำให้สีทับหน้าเกิดการเหลืองตัวอีกด้วย

(2) รอยร้าวผนังแบบแนวทแยง/เฉียงกลางผนัง

รอยร้าวผนังแบบแนวทแยง หรือแบบเฉียงกลางผนัง สามารถสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับฐานรากของตัวบ้าน เป็นรอยร้าวที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน โดยสาเหตุอาจเกิดจาก

  • เสาบางต้นในบ้านมีการทรุดตัว ทำให้ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ดีเหมือนเดิม ส่งผลให้ผนังเกิดการแตกร้าวลงมา
  • การต่อเติมบ้านที่ไม่เป็นไปตามหลักการ ส่งผลให้เสาเดิมในบ้านไม่สามารถรับน้ำหนักได้

โดยรอยร้าวลักษณะนี้ถือเป็นรอยร้าวที่เป็นอันตราย เพราะจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าผนังจะเริ่มพังลงมาแล้ว ฉะนั้นควรรีบปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญโดยด่วน เพื่อหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

(3) รอยร้าวเฉียงๆ ตามมุมขอบวงกบ

รอยร้าวแบบต่อไปคือ รอยร้าวเฉียงๆ ตามมุมขอบวงกบบริเวณหน้าต่าง หรือบานประตู โดยให้สังเกตดูว่า หากรอยไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็สามารถสันนิษฐานได้ว่าเกิดการยืดขยายของวงกบหน้าต่าง หรือบานประตู ที่อาจจะเกิดมาจากสภาพอากาศที่เมื่ออุณหภูมิสูงก็อาจทำให้โครงสร้างภายในมีการขยายตัว หากมีอุณหภูมิต่ำก็ทำให้โครงสร้างมีการหดตัวได้ โดยรอยร้าวลักษณะนี้ถือว่าไม่รุนแรง สามารถซ่อมแซมได้เอง

  • ในกรณีที่รอยแตกร้าวอยู่ภายในตัวบ้าน แนะนำให้ใช้ ทีโอเอ อะคริลิก ซีลแลนท์ (TOA Acrylic Sealant) ซึ่งมีทั้งแบบหลอดและแบบกระป๋อง (แบบหลอดคือ ทีโอเอ 303 อะคริลิก ซีลแลนท์, แบบกระป๋อง คือ ทีโอเอ 302 อะคริลิก ซีลแลนท์)
  • กรณีที่เป็นรอยร้าวที่อยู่ด้านนอกตัวบ้าน หรือรอยร้าวที่มีแนวโน้มว่าอาจจะขยายหรือหดตัวได้อีกบ่อยๆ แนะนำให้ใช้ทีโอเอ โพลียูริเทน ซีลแลนท์ (TOA PU Sealant) ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่นตัวได้มากกว่า

แต่ถ้าเกิดเป็นรอยร้าวแบบเฉียงๆ ในทิศทางเดียวกัน เกิดเป็นร่องรอยที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน และดูจะมีการขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ให้สันนิษฐานว่ากำลังเกิดปัญหากับฐานรากอาคารที่มีการทรุดตัว ซึ่งควรที่จะเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาซ่อมแซมโดยด่วน

(4) รอยร้าวผนังแนวดิ่งกลางคาน

หากรอยร้าวเป็นแบบแนวดิ่งกลางผนัง รอยร้าวแนวตั้งจะมีลักษณะของรอยที่กว้างช่วงบน หรือแคบลงมา รอยร้าวนี้แสดงถึงปัญหาของโครงสร้างภายในอาคาร อย่างคานที่รับน้ำหนักมากเกินไป ทำให้หินหรืออิฐภายในผนังดันตัวจนเกิดเป็นรอยร้าว การคำนวณน้ำหนักโครงสร้างที่ผิดพลาด ทำให้อาคารรับน้ำหนักได้ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยรอยร้าวลักษณะนี้เป็นอันตราย ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาซ่อมแซมโดยด่วน และให้ทำการย้ายของจากชั้นบนลงมาเพื่อเป็นการถ่ายเทน้ำหนักในเบื้องต้นก่อน

(5) รอยร้าวแนวเฉียงที่หัวเสา (ลามไปถึงคาน)

รอยร้าวผนังประเภทต่อมาคือ รอยร้าวแนวเฉียงที่หัวเสา ที่อาจลามไปถึงคาน รอยร้าวนี้จะมีลักษณะทั้งแบบแนวเฉียง หรือแนวดิ่ง โดยมักจะเกิดขึ้นกับปลายทั้งสองข้างของคาน สาเหตุส่วนใหญ่จะมาจากการที่คานไม่สามารถรับน้ำหนักได้ไหว หรือการที่คานต้องรับน้ำหนักที่มากเกินกว่าที่คำนวณมาในตอนแรก ทำให้เสาและคานแยกตัวออกจากกัน รอยร้าวลักษณะนี้มีอันตราย อาจเป็นสาเหตุให้บ้านหรืออาคารถล่มลงมาได้ ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญเข้ามาแก้ไขโดยด่วน

(6) รอยร้าวบนพื้น

รอยร้าวบนพื้นจะมีลักษณะร่องรอยที่แตกต่างกันไป บ่งบอกถึงปัญหาที่แตกต่างกัน โดยเราจะขอหยิบยกมา 2 ประเภทให้ได้สังเกตกันคือ หากรอยร้าวบนพื้นมีลักษณะเป็นรอยร้าวแนวเฉียงเข้าหาเสาทั้งสี่มุม สามารถสันนิษฐานได้ว่าพื้นมีการแอ่นตัว เพราะต้องรองรับน้ำหนักที่มากเกินไป รอยร้าวบนพื้นรูปแบบต่อไปคือเป็นแนวเส้นตรง หรือเป็นรูปตีนกา สามารถสันนิษฐานได้ว่าตัวคอนกรีตอาจมีการยืดและหดตัวตามสภาพภูมิอากาศ หากเป็นรอยลึกให้ระมัดระวังในเรื่องของการรั่วซึม เพราะอาจส่งผลต่อโครงสร้างของเหล็กภายใน ที่อาจก่อให้เกิดสนิม และแตกร้าวออกมาได้.

ขอขอบคุณ https://www.toagroup.com/th/blogs/toa-tips-how-to/61/types-wall-cracks-..

ความร้ายแรงของแผ่นดินไหว และหน่วยการวัด (1)