โป๊ะเช๊ะ ดอท คอม

สภากาชาดไทยเปิดฉีดวัคซีนฝีดาษลิง ป้องกันได้ถึง85%เต็มโดสเข็มละ 8,500 บาท

สภากาชาดไทยเปิดฉีดวัคซีนฝีดาษลิง ป้องกันได้ถึง85%เต็มโดสเข็มละ 8,500 บาท

องค์การอนามัยโลก ประกาศยกระดับ โรคฝีดาษลิง หรือ เอ็มพอกซ์ ให้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังแอฟริกามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสายพันธุ์ เคลด 1 บี (Claude 1b)

ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคดังกล่าวพร้อมทั้งระบุด้วยว่า ในประเทศไทย โดยสถานเสาวภา สภากาชาดไทยได้มีการนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าว แต่มีค่าใช้จ่าย ป้องกันความรุนแรงได้ร้อยละ 68-80%

ฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2567 สภากาชาดไทยโพสต์เฟซบุ๊กการให้บริการวัคซีนป้องกันโรค ฝีดาษวานร ระบุว่า ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีความประสงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานร สามารถเข้ารับบริการวัคซีนได้ที่ตึกราชูทิศ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย โดยมีการบริการฉีด 2 วิธี ดังนี้..

เปิดทำการ วันจันทร์-วันศุกร์

วันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

วันอาทิตย์ปิดทำการ

ยังไม่ใช่วัคซีนฝีดาษลิงโดยตรง ป้องกันได้ร้อยละ 80-85

ข้อมูลจากสถานเสาวภา สภากาชาดไทย ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงโดยตรง แต่พบว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษเข้าใต้ผิวหนัง 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 28 วัน มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ถึงร้อยละ 80-85 ซึ่งผู้ที่ควรได้รับวัคซีน คือ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ดังนี้..

  1. การฉีดวัคซีนแก่บุคคลที่มีการสัมผัสโรคแล้ว ได้แก่ ผู้ที่มีการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง เช่น มีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ใกล้ชิดคลุกคลีหรือมีการสัมผัสกับรอยโรคของผู้ติดเชื้อ โดยให้เริ่มฉีดวัคซีนภายใน 14 วัน หลังสัมผัสโรค (ดีที่สุดคือภายใน 4 วัน)
  2. การฉีดวัคซีนแบบป้องกันก่อนสัมผัสโรคสำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับเชื้อฝีดาษวานร และผู้ติดเชื้อเอชไอวีหรือกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะกลุ่มชายรักชายที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีคู่นอนมากกว่า 1 คน หรือ ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ภายในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา

cr:https://www.thaipbs.or.th/news/content/343307

โรคฝีดาษลิง