เกษตร » ข้าวนาปรังไทยทะลัก-ชนพร้อมกับข้าวนาปีเวียดนาม ตลาดโลกกอดคอราคาร่วง

ข้าวนาปรังไทยทะลัก-ชนพร้อมกับข้าวนาปีเวียดนาม ตลาดโลกกอดคอราคาร่วง

27 มีนาคม 2024
438   0

ข้าวนาปรังไทยทะลัก-ชนพร้อมกับข้าวนาปีเวียดนาม ตลาดโลกกอดคอราคาร่วง

จากราคาข้าวเปลือกและข้าวสารที่ปรับตัวลดลงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์ตลาดโลก อย่างมีนัยสำคัญ..
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ราคาข้าวที่ปรับตัวลงมาเป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากประเทศผู้ผลิตข้าวหลายประเทศ มีผลผลิตออกมามาก เช่นประเทศเวียดนาม ชาวนากำลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปี และเป็นช่วงพีค..

ขณะที่ไทยข้าวนาปรังก็กำลังออกมามากเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด เวลาซัพพลายมีมากราคาก็อ่อนตัวลงมา บวกกับราคาข้าวเวียดนามในตลาดโลกก็ปรับตัวลงมาเช่นเดียวกับข้าวปากีสถาน ดังนั้นเพื่อให้แข่งขันในตลาดได้ ข้าวไทยก็ต้องปรับลดราคาลงเช่นเดียวกันเพื่อให้ขายได้ ไม่เช่นนั้นลูกค้าจะหันไปซื้อเวียดนามเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติของตลาด
“ส่วนการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการเจรจา และช่วงนี้อยู่ในเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม การรับมอบสินค้าช้าลง ทำให้ความต้องการน้อยลง ทุกอย่างเลยช้าลงไป ราคาก็อ่อนตัวลง”
นายรังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวถึง สาเหตุจากราคาข้าวปรับตัวลงมา เกิดจากผู้ส่งออกแจ้งราคารับซื้อข้าวสาร 5% ลงจาก 21,000 บาท/ตัน เป็น 20,000-20,020 บาท/ตัน ส่วนปลายข้าวท่อน จาก 16,000 บาท/ตัน เหลือ15,500 บาท/ตัน และราคาข้าวเปลือกก็ไม่ได้ปรับตัวลงมามาก เนื่องจากการแข่งขันโรงสีมีสูง มีการแย่งซื้อข้าวจากชาวนาตามการดำเนินธุรกิจปกติ
“วันนี้ชาวนาทั่วประเทศเกี่ยวข้าวนาปรังทั่วประเทศผลผลิตหนาแน่นมาก ทำให้ราคาปรับตัวลงมากในช่วง 2 อาทิตย์นี้ จึงทำให้ผู้ที่มาซื้อข้าวราคาก็ปรับตัวลงตามของที่มีเยอะมากกว่าเป็นกลไกตลาดปกติ แล้วในอนาคตหากมีความต้องการเพิ่ม ราคาก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับที่เกษตรกรหันไปปลูกข้าวจัสมินหรือข้าวเวียดนาม ที่ส่งผลทำให้ราคาข้าวปรับตัวลดลง”
นายรังสรรค์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโรงสีมีการซื้อเก็บสต็อกข้าวน้อย ซื้อมาขายไปเพื่อทำรอบ เนื่องจากสถาบันการเงิน มีความเข้มงวด มีระเบียบจำกัด ทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก แต่ถ้ามีเงินในกระเป๋ามาก ก็ไม่ต้องเร่งทำรอบ ก็สามารถที่จะเก็บสต็อกได้เพื่อรอราคา หรือไม่ต้องทุ่มราคาตลาดมากนัก