เรซูเม (résumé) สิ่งที่ผู้สมัครงานขาดไม่ได้
เรซูเม (ฝรั่งเศส: résumé) คือเอกสารที่สร้างขึ้นโดยบุคคลหนึ่ง เพื่อนำเสนอประวัติส่วนบุคคลทางด้านการทำงานของคนนั้น ๆ โดยแสดงถึงความสามารถในการทำงาน ความสามารถพิเศษ และรางวัลที่ได้รับ มีการใช้งานเรซูเมแตกต่างกันไปหลากหลายวิธี ในประเทศไทยนิยมใช้เรซูเมเพื่อการสมัครงานกันอย่างแพร่หลาย
เรซูเมโดยทั่วไปจะเป็นเอกสาร “สรุป” ประวัติของบุคคลนั้น ๆ อยู่ภายใน 1 หน้ากระดาษ โดยเน้นที่ประสบการณ์ทำงาน และการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร
เรซูเมนั้นแทบจะเป็นเอกสารชิ้นแรก ๆ ที่นายจ้างจะใช้เพื่อการคัดเลือกพนักงานใหม่ หรือคัดเลือกบุคลากรเพื่อการสัมภาษณ์ก่อนการจ้างงาน
ประวัติ
คำว่าเรซูเม มาจากรากศัพท์ภาษาฝรั่งเศส résumé ซึ่งแปลว่า “สรุป” ผู้เขียนเรซูเมคนแรกของโลกคือ เลโอนาร์โด ดา วินชี โดยเขาเขียนสรุปประวัติของตนเองลงในจดหมายสมัครงาน เพื่อส่งถึงผู้ว่าจ้างชื่อ ลุโดวิโค สฟอร์ซา ในช่วงปี ค.ศ. 1481 – 1482 หลังจากนั้นก็นิยมใช้เรซูเมเพื่อเป็นเอกสารสรุปประวัติการทำงานส่วนบุคคล ในการสมัครงานกันอย่างแพร่หลาย มายาวนานกว่า 450 ปี
ในช่วงปี ค.ศ. 1900 เรซูเมจะเขียนสรุปเฉพาะรายละเอียดส่วนบุคคลเช่น น้ำหนัก ส่วนสูง เพศ และศาสนา แต่หลังจากปี ค.ศ. 1950 เป็นต้นมา เรซูเมก็มีวิวัฒนาการมากขึ้นโดยเพิ่มรายละเอียดทางด้านประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา ความสนใจส่วนบุคคล และงานอดิเรกเข้ามาด้วย จนถึงช่วงหลังสุดในปี ค.ศ. 1970 ที่เข้าสู่ยุคคอมพิวเตอร์ เรซูเมได้มีวิวัฒนาการอีกครั้งหนึ่งเข้าสู่เอกสารสรุป ที่เน้นแสดงทักษะของตัวเองที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่สมัคร
ชนิดของเรซูเม
1. Chronological resume – ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การทำงาน ด้วยการเรียงลำดับช่วงเวลาที่ชัดเจน โดยเริ่มจากตำแหน่งหรืองานล่าสุดที่เราทำไล่ไปจนถึงงานแรกที่เราเริ่มทำ ข้อได้เปรียบของการใช้ resume ประเภทนี้ก็คือ เป็นที่คุ้นเคยของคนทั่วไปรวมไปถึงผู้ว่าจ้าง และช่วยเน้นให้เห็นความต่อเนื่องในการทำงาน รวมไปถึงความเติบโตในทางหน้าที่การงานเราอย่างชัดเจน resume ประเภทนี้จึงเหมาะสมกับผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานต่อเนื่อง และมีประสบการณ์หรือเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน
2. Functional resume (or skills resume) – ให้ความสำคัญกับทักษะและความสามารถด้านต่างๆ โดยการเน้นสิ่งที่เราสามารถทำได้หรือสิ่งที่เรามีทักษะ มากกว่าจะเน้นเรื่องลักษณะของงานหรือองค์กรที่เคยว่าจ้างเรา ข้อดีของ resume ประเภทนี้ก็คือ ผู้ว่าจ้างจะเห็นทักษะและความสามารถของเราได้อย่างชัดเจนและเราสามารถอำพรางจุดด้อยของเราได้ resume รูปแบบนี้จึงเหมาะสมกับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือขาดประสบการณ์การทำงานที่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เราควรคำนึงถึงความไม่เป็นที่แพร่หลายของ resume ประเภทนี้ไว้ด้วย
3. Combination resume – เป็นการผสมผสานระหว่าง resume สองประเภทที่ได้กล่าวมา โดยดึงจุดเด่นของ resume ทั้งสองประเภทนั้นมาใช้ กล่าวคือ เน้นทักษะและความสามารถของเราโดยใช้รูปแบบการเรียงลำดับตามช่วงเวลาที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี resume รูปแบบนี้กลับไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนักและอาจมีข้อเสียเปรียบบางประการ กล่าวคือ การผสมผสานรูปแบบต่างๆเข้าด้วยกัน อาจทำให้ resume ของเราไม่กระชับและกินความยาวหน้ากระดาษเกิน 1-2 หน้า..
เรซูเม่ใช้ทำอะไรได้บ้าง
ส่วนใหญ่แล้วในประเทศไทย เราจะใช้เรซูเม่กันเป็นหลักในขั้นตอนของ การสมัครงาน โดยผู้สมัครงานจะต้องเขียนสรุปประวัติส่วนตัวของตัวเอง เพื่อส่งให้กับผู้ว่าจ้าง HR ของบริษัท เพื่อพิจารณารับเข้าทำงาน
แต่ก็มีการใช้งานเรซูเม่ในรูปแบบอื่น ๆ อยู่บ้างประปราย แต่ล้วนแล้วก็จะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสมัครต่าง ๆ ดังเช่น
●การสมัครเข้าเรียน บางแห่ง
●การสมัครรับทุน บางแห่ง
●การสมัครเข้าโครงการ บางแห่ง
ต้องใส่อะไรลงในเรซูเม่บ้าง
เรซูเม่ถือเป็น เอกสารสรุป ดังนั้นไม่ใช่ว่าคุณจะใส่อะไรก็ได้ลงไปในเรซูเม่ ในทางกลับกัน คุณจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าผู้อ่านต้องการอ่านข้อมูลอะไรบ้าง หลังจากนั้นคุณถึงจะใส่ข้อมูลสำคัญที่ผู้อ่านต้องการทราบเกี่ยวกับตัวคุณลงไปในเรซูเม่อีกทีหนึ่ง โดยทั่วไปของการสมัครงานแล้ว ผู้อ่านต้องการทราบข้อมูลเหล่านี้ เรียงตามลำดับความสำคัญ..
●ประสบการณ์ทำงาน
●รางวัล ความสำเร็จ (ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร)
●จุดมุ่งหมายในการทำงาน (Career Objective)
●ประวัติการศึกษา
●สกิล และความสามารถพิเศษต่าง ๆ (ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร)
●ข้อมูลส่วนตัว
●รูปถ่ายผู้สมัครงาน (ไม่จำเป็น แต่ถ้าจะใส่ จะต้องเลือกรูปที่สุภาพเท่านั้น)
เรซูเม่ที่ดีจะต้องเป็นอย่างไร
เมื่อคุณต้องการที่จะสร้างเรซูเม่ขึ้นมาใบหนึ่ง คุณควรจะต้องเห็นภาพกว้าง ๆ ก่อนว่าเรซูเม่ที่ดีเป็นอย่างไร คุณจึงจะสามารถสร้างเรซูเม่ที่ดีขึ้นมาได้ภายในครั้งแรกเลย..
●เรซูเม่ที่ดี จะยาวเพียงหน้าเดียวเท่านั้น
●เรซูเม่ที่ดี จะใช้ตัวอักษร (font) ที่อ่านง่าย อ่านได้ในทุกอุปกรณ์
●เรซูเม่ที่ดี จะใช้กระดาษขนาด A4 และการแบ่งขอบกระดาษที่เหมาะสม
●เรซูเม่ที่ดี จะต้องเขียนด้วยภาษาอังกฤษ
แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียส และอยากจะ ใช้ภาษาไทยเขียนเรซูเม่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
●เรซูเม่ที่ดี จะต้องเป็นไฟล์ PDF เท่านั้น
ส่วนไฟล์อื่นๆอย่าง docx / jpg / png แสดงให้เห็นว่าคุณทำงานไม่เรียบร้อย
●เรซูเม่ที่ดี จะต้องน่าสนใจ โดยใช้ผู้อ่านเป็นที่ตั้ง
เมื่อเขียนเรซูเม่เสร็จแล้ว ลองใช้เช็คลิสต์นี้ตรวจทานดู สักรอบก่อนส่ง.
>>แนะนำการเขียนเรซูเม่ออนไลน์ที่นี่ https://www.resume.in.th/register
ขอบคุณhttps://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8..
https://www.resume.in.th/article/what-is-resume
https://www.google.com/..resume+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%…
แนะอาชีพรวย: เรียนทำแค่ 2วัน อร่อยคนถูกใจ จากวันละ7 ตัว ขยับเป็น100ตัว กระเป๋าตุง!