โลกโซเชียล » ระวัง!แก๊งค์รถโมบายดูดเงิน ใช้อุปกรณ์ไฮเทคขับตระเวณส่งSMS เข้ามือถือเหยื่อ หลอกได้175ล้าน

ระวัง!แก๊งค์รถโมบายดูดเงิน ใช้อุปกรณ์ไฮเทคขับตระเวณส่งSMS เข้ามือถือเหยื่อ หลอกได้175ล้าน

29 พฤษภาคม 2023
469   0

ระวัง!แก๊งค์รถโมบายดูดเงิน ใช้อุปกรณ์ไฮเทคขับตระเวณส่งสัญญาณ SMS เข้าแบงค์มือถือเหยื่อ

“..ตำรวจไซเบอร์เปิดยุทธการ “Shut down STINGRAY ทลายรังโจรสวมรอยแบงก์ส่ง SMS หลอกดูดเงินเหยื่อ” รวบผู้ต้องหา 6 คน พร้อมอุปกรณ์เครื่องจำลองสถานีฐาน 5 เครื่อง ติดตั้งในรถยนต์ 4 คัน เป็นโมบายเคลื่อนที่ออกตระเวนส่ง SMS เข้ามือถือที่อยู่ละแวกใกล้เคียง สวมรอยเป็นข้อความจากธนาคารหรือหน่วยงานอื่นๆลวงให้กดลิงก์ที่แนบไป ก่อนติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องระยะไกลดูดเงินจากแอปธนาคารในมือถือไปเกลี้ยง..”

 

ช่วง 3 เดือน มีเหยื่อโดนไปกว่า 175 ล้านบาทกลุ่ม ผู้ต้องหาสารภาพรับว่าจ้างจากนายทุนที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ส่งอุปกรณ์ไฮเทคมาให้พร้อมค่าจ้างเดือนละ 8 หมื่นบาท

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พ.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. นายไตยรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมตัวแทนจากผู้ให้บริการข่ายโทรศัพท์มือถือและสถาบัน ธนาคารร่วมกันแถลงผลการเปิดยุทธการ “Shut down STINGRAY ทลายรังโจร สวมรอยแบงก์ ส่ง SMS หลอกดูดเงินเหยื่อ” จับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมอุปกรณ์เครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) 5 เครื่อง และรถยนต์ 4 คัน..

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า สั่งการให้ บช.สอท. ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะขบวนการส่งข้อความสั้น (SMS) ลักษณะลิงก์ปลอมแอบอ้างว่าติดต่อมาจากธนาคารต่างๆหรือหน่วยงานรัฐ หลอกดูดเงินผู้เสียหาย กำลังแพร่ระบาดมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมากตั้งแต่รายละหลักหมื่นจนไปถึงหลักล้านบาท กระทั่งตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้ยกแก๊งพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ส่งสัญญาณ..

พล.ต.ท.วรวัฒน์กล่าวว่า จากการสืบสวนและวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า คนร้ายจะนำเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ใส่ไว้ในรถยนต์ลักษณะรถโมบายเคลื่อนที่ ขับออกไปตามสถานที่ต่างๆในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล หากรถแล่นผ่านไปทางใดจะส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือบริเวณใกล้เคียงแล้วส่งข้อความสั้น (SMS) อ้างเป็นสถาบันการเงิน กรมสรรพากร การไฟฟ้า มีข้อความ เช่น “มีผู้เข้าสู่ระบบธนาคารของคุณจากอุปกรณ์อื่น หากไม่ได้ดำเนินการด้วยตนเองโปรดติดต่อทันที” พร้อมแนบลิงก์มาด้วย หากประชาชนหลงเชื่อกดลิงก์จะถูกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมเครื่องระยะไกล สามารถโอนเงินจากบัญชีธนาคารที่ติดตั้งแอปพลิเคชันในเครื่องโทรศัพท์ มีข้อมูลรับแจ้งความออนไลน์ห้วงเดือน มี.ค.-พ.ค.66 รวมมูลค่าความเสียหาย 175,159,482 บาท

ผบช.สอท.เผยต่อไปว่า ต่อมาทีมชุดปฏิบัติการสืบสวนจนพบความเคลื่อนไหวการก่อเหตุของคนร้ายหลายจุดขณะขับรถตระเวนส่งสัญญาณข้อความ SMS ได้แก่ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อในซอยบางแวก 33 บนถนนราชพฤกษ์ ..

จึงกระจายกำลังเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา 6 คน ประกอบด้วย นายสุขสันต์ ประดับเสริฐ อายุ 40 ปี หัวหน้าแก๊งคนจ่ายงาน นายกัปตัน ทรารมย์ อายุ 33 ปี นายพรเทพ ปริศนา อายุ 34 ปี นายเฉลิมพงษ์ ดำรงค์ศิลป์ อายุ 35 ปี นายศราวุธ ศรีราช อายุ 38 ปี และนายไพฑูรย์ ชืนนะ อายุ 38 ปี ยึดรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องจำลองสถานีฐาน 4 คันพร้อมอุปกรณ์ 4 ชุด จากนั้นควบคุมตัวนายสุขสันต์ เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 306 ชั้น 3 F&A HOUSE ซอยบางแวก 33 เขตภาษีเจริญ กทม. พบเครื่องจำลองสถานีฐานสภาพใหม่ยังไม่แกะออกมาใช้อีก 1 ชุด ยึดไว้เป็นของกลาง

พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.กล่าวว่า อุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุมี 4 ส่วนนำมาประกอบเป็น 1 ชุดคือ..

1.แบตเตอรี่

2.แล็ปท็อปที่ลงโปรแกรมไว้

3.เสาสัญญาณ

4.Stingray หรือปลากระเบน ซึ่งถูกใช้ในงานสืบราชการลับในอเมริกา

..เมื่อประกอบกัน จะเป็นตัวส่งสัญญาณขนาดเล็กเสมือนเสาสัญญาณมือถือ โทรศัพท์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจะถูกดักสัญญาณผ่านตัวเครื่องเพื่อส่งข้อมูล SMS เมื่อเครื่องทำงานโอเปอเรเตอร์ค่ายมือถือต่างๆจะไม่ทราบว่ามีการส่ง SMS ไปยังลูกค้า เนื่องจาก SMS ถูกส่งจากเสาของคนร้ายโดยตรง เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ กดลิงก์เข้าไปคนร้ายก็จะหลอกติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สืบสวนมาโดยตลอด ได้รับความร่วมมือจาก กสทช. และค่ายมือถือต่างๆจนสามารถจับตัวคนร้ายกลุ่มนี้ได้

เบื้องต้นในชั้นจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ยอมรับว่าได้รับการติดต่อว่าจ้างจากคนรู้จักที่ทำงานอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมให้อุปกรณ์ที่ใช้ส่งข้อความ ให้ค่าจ้างสำหรับการวิ่งส่งสัญญาณหรือข้อความเดือนละ 80,000 บาท ล่าสุดส่งข้อความปลอมของธนาคารกสิกรไทยในการหลอกเหยื่อ จะเลือกก่อเหตุในพื้นที่ที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก เครื่องดังกล่าว สามารถส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้วันละ 20,000 หมายเลขต่อ 1 เครื่อง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้านำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 6 พ.ร.บ.วิทยุ คมนาคม พ.ศ.2498, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 11 พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498, ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ตามมาตรา 67 (3) พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม และเป็นอั้งยี่หรือซ่องโจรตามประมวลกฎหมายอาญา”

ผบ.ตร.กล่าวทิ้งท้ายว่า ฝากถึงตำรวจในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ หากพบรถที่มีอุปกรณ์ลักษณะดังกล่าว ให้ทำการตรวจค้นจับกุมทันที ทั้งนี้ให้ บช.สอท.เป็นศูนย์กลางประสานงานกับหน่วยต่างๆ ตลอดจนฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนหากพบรถที่มีการติดตั้งเครื่องหรืออุปกรณ์ลักษณะดังกล่าว ให้แจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบจับกุมเพื่อตัดวงจรของคนร้ายที่จะลงมือก่อเหตุกับเหยื่อรายอื่นๆอีก.

cr:https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2696954
https://www.springnews.co.th/news/hot-issue/839203

พร้อมเพย์แจ้งเตือน!! อีเมล์หลอกลวงลูกค้า (Phishing)