..เพียงไม่ถึงสัปดาห์หลังสังคมไทยพูดถึงการอำนวยความสะดวกระดับ “VVIP” ของตำรวจไทยให้นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน มาวันนี้วงการสีกากีถูกวิจารณ์หนักยิ่งขึ้นไปอีก หลังดาราสาวชาวไต้หวัน ที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทยในช่วงเดือน ม.ค. 2566 เปิดใจว่า ถูกตำรวจไทย “รีดไถเงิน 27,000 บาท”
ผู้ตีแผ่ข่าวดาราสาวไต้หวันถูกตำรวจไทย “รีดทรัพย์” คือ เพจเฟซบุ๊ก “หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว” โดยระบุว่า นักแสดงสาวชาวไต้หวันคนดังกล่าว คือ อัน ยู๋ชิง หรือ ชาลีน อัน (Chalene An) ที่มาท่องเที่ยวประเทศไทยช่วงต้นปีที่ผ่านมา..
ดาราสาวโพสต์ในแอปพลิเคชั่นอินสตาแกรมว่า “ก่อนกลับไต้หวัน 1 วัน ขณะนั่งรถแท็กซี่กับเพื่อน ๆ กลับโรงแรม ระหว่างทางช่วงราว ตี 1 กว่า ๆ กลับถูกตำรวจที่ตั้งด่านเรียกให้รถหยุดและขอค้นตัว ค้นกระเป๋า โดยมีการมาจับค้นที่กระเป๋ากางเกง และกระเป๋าสตางค์ มีการถามถึงเรื่องวีซ่า”
เมื่อเธอยื่นหนังสือเดินทางให้ตำรวจและอธิบายว่าได้รับวีซ่า VOA หรือ Visa on Arrival เข้าประเทศไทย แต่ตำรวจกลับไม่ยอมรับวีซ่า VOA ของเธอและเพื่อน ๆ โดยอ้างว่า ต้องเป็นวีซ่าจริง มีตราและพิมพ์บนหนังสือเดินทางเท่านั้น
พวกเธอพยายามอธิบายกับตำรวจที่มีท่าทีต้องสงสัย จนสถานการณ์ยื้อไปนานกว่า 2 ชั่วโมง ท้ายสุด ตำรวจพาเธอไปที่ลับตาคน แล้วระบุว่า “ทั้งหมดในรถต้องจ่ายมา 27,000 บาท ถึงจะยอมปล่อย”
“ไม่คิดเลยว่า ไปเที่ยวปีใหม่ที่ไทยหวังเจอประสบการณ์ดี ๆ แต่กลับกลายเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายและน่ากลัวที่สุดในชีวิต และฉันจะไม่ไปเหยียบเมืองไทยอีก”
“ลาก่อน กรุงเทพห่วย ๆ” ดาราสาวระบุในอินสตาแกรม
ด้าน พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ยืนกรานว่ามีการตั้งด่านจริง บริเวณหน้าสถานทูตจีน พร้อมชี้แจงว่า พบนักท่องเที่ยวต่างชาติพกบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าผิดกฎหมาย แต่คุยไม่เข้าใจภาษา เพราะพูดภาษาจีน และมีการอัดเสียงไว้ แต่ยังหาไม่เจอ..
รายละเอียด
26 มกราคม 2566 จากกรณี อันยู๋ชิง (Charlene An) ดาราสาวชาวไต้หวัน ได้โพสต์อินสตาแกรมซึ่งแปลได้ว่า ลาก่อน กรุงเทพห่วย ๆ ! หลังจากเจอประสบการณ์สุดเลวร้ายตำรวจไทยรีดไถเงิน ต่อมา พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก สน.ห้วยขวาง คืนวันที่ 4 มกราคม 2566 มีการตั้งด่านตรวจจริง ที่บริเวณหน้าสถานทูตจีนอยู่ในห้วงเวลาตี 1 ตามที่สาวไต้หวันเล่าเหตุการณ์ ตามนโยบายห้วงการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและป้องกันเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ..
โดยด่านตรวจในวันเกิดเหตุ บช.น. รู้ข้อมูลทั้งหมดว่า ตั้งด่านกี่จุด เนื่องจากมีกำหนดผัง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล จากการสอบถามตำรวจที่ตั้งด่านแจ้งว่า เจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีพฤติกรรมพกบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่เพียงแจ้งว่าผิดกฎหมาย แต่คุยไม่รู้เรื่อง มีการอัดเสียงเอาไว้แต่หาไม่เจอ ตนได้สั่งการ ผกก.สน.ห้วยขวาง ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่าเหตุการณ์เกิดในลักษณะใด ตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดติดตามหาโชเฟอร์แท็กซี่พยานปากสำคัญมาสอบปากคำ รวมทั้งพยานที่โรงแรมที่พักของนักท่องเที่ยว เพื่อรวบรวมข้อมูลรายละเอียดให้ชัดเจน..
สรุปไทม์ไลน์จากเพจ หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว
– เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนมกราคม 2566 ดาราสาว อันยู๋ชิง ได้โพสต์ลงอินสตราแกรมจนกลายเป็นข่าวดังในไต้หวัน เธอเดินทางไปไทย เพื่อฉลองงานปีใหม่กับเพื่อน ๆ แต่เมื่อวันที่ 4 มกราคม ประมาณตี 2 เธอนั่งแท็กซี่จากที่เที่ยว กลับไปยังโรงแรมเมื่อถึงแถวหน้าสถานทูตจีนมีด่านตรวจ และรถแท็กซี่ที่เธอนั่งมาถูกเรียกให้หยุด
– ตำรวจได้ทำการตรวจค้นตัวเธอ และกระเป๋าถือของเธอ และมีการตรวจค้นว่าเธอพกเงินมาจำนวนเท่าไหร่ ต่อมาถามถึงหนังสือเดินทางและวีซ่า เธอบอกว่าได้ขอวีซ่า VOA ที่สนามบิน ซึ่งเธอเข้ามาไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
– วีซ่า VOA คืออะไร : วีซ่าที่ใช้ในการเดินทางเข้าประเทศต่าง ๆ หลัก ๆ มี 2 แบบ แล้วแต่ละประเทศกำหนด อย่างไทย คือ ขึ้นอยู่กับสัญชาติของหนังสือเดินทางว่าเป็นชาติใด มีกำหนดการขอวีซ่าไว้อย่างไร และอยู่ได้นานเท่าไหร่ ในที่นี้หนังสือเดินทางไต้หวันนั้น หากต้องการเข้าไทย สามารถยื่นขอวีซ่าเข้าไทยได้จากสถานทูตไทยในไต้หวัน และอีกกรณีคือสามารถมาขอได้ที่สนามบินปลายทาง (ไทย)
– เมื่อเธอให้เขาดูวีซ่า VOA กลายเป็นว่ากลายเป็นประเด็นที่นำมาใช้ปรับ และสื่อไต้หวันตีข่าว เพราะกลุ่มที่ตั้งด่านนั้น บอกว่าไม่รับรองวีซ่า VOA ต้องเป็นสถานทูตออกมีตราปั๊มนั่นนี่เท่านั้น มีการยืดยื้ออยู่นาน ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าตนผิดตรงไหน เธอยืนจนเมื่อยก็นั่งยองลงกับพื้น ก็ถูกตำรวจทำเสียงดุดันใส่ไม่ให้นั่ง
– เธอถูกขู่ว่าจะจับพาไปโรงพัก เธอบอกว่าไปก็ไป แต่พวกนั้นก็ไม่ยอมพาเธอไป บอกให้เธอพูดขอโทษต่าง ๆ นานา เธอก็ทำทุกอย่างเหลือขาดแต่เพียงคุกเข่าเท่านั้นเอง เพื่อนของเธอได้ใช้โทรศัพท์อัดคลิป และจะโทร. ขอความช่วยเหลือ กลับถูกขู่ให้ลบคลิป
– จากที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่าตำรวจจริงไหม ?! สื่อไต้หวันนึงมีเขียนคำบอกเล่าของเธอว่า ทั้งพูดดุดันใส่เธอ แถมพกปืน ยื้อนานเป็นชั่วโมง สุดท้ายเรียกเงินค่าปรับตกลงที่ 27,000 บาท พอตกลงเรื่องเงินได้ จากที่ตำรวจที่ดุดันกลับยิ้มออกมา
– เธอบอกกับสื่อว่า อยากเตือนนักท่องเที่ยวไปไทยอย่าพกเงินเยอะ เพื่อน ๆ เธอเคยไปไทยก็เคยเจอแบบนี้เช่นกัน ตำรวจมาค้นเพื่อดูว่ามีเงินเท่าไหร่ พยายามจะหาเรื่องปรับให้ได้ ก็คือจะเอาเงินนั่นแหละ หลังจากเรื่องนี้เกิด เธอเล่าให้ไกด์ท้องถิ่นในไทยฟัง ไกด์ได้แนะเธอว่า หากเจอกรณีแบบนี้ ให้รีบแอบ ๆ ยัดเงินไปเลยสัก 5,000 ไม่ก็ขอคุยตกลงราคากันเลย ถ้าให้ดีหาบอดี้การ์ด ไม่งั้นดวงซวยก็เจอรังแกแบบนี้
– หลังจากตกลงราคากันได้ เธอนับเงินให้ตำรวจไป 27,000 ตำรวจจึงเรียกแท็กซี่ให้เธอกลับไปยังที่พัก เธอเล่าต่อว่า ข้าง ๆ เธอมีกลุ่มสาวชาวเกาหลีประมาณ 5 คน แต่น่าจะภาษาเป็นปัญหาคุยกันไม่ได้เลย สาวเกาหลีจึงยังอยู่ตรงนั้นตอนพวกเธอถูกปล่อยแล้ว
– เธอยังบอกว่า บางทีเจอแท็กซี่ไม่ดี มีเอี่ยวกับตำรวจก็จะขับพาไปที่ด่าน
cr:https://www.bbc.com/thai/articles/cz7yzzg09j6o
https://hilight.kapook.com/view/230537
กระทรวงดิจิทัลไทยเตือน 203 แอปโจร ดูดเงินในบัญชี ดูรายชื่อแอปอันตรายทั้งหมดที่นี่