โป๊ะเช๊ะ ดอท คอม

ชาวบ้านแห่แจ้งความ นายทุนให้ปลูกกระท่อม สุดท้ายฉีกสัญญา

18 ก.ค.65 นางเสาวนีย์ ช่วยชูหนู นางราตรี สุคันโท นางวรารัตน์ มาลัยล้อม นางกัณธิชา จันเพชร์ และสมาชิกกลุ่มปลูกพืชกระท่อมนิคมท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จำนวน 17 คน พร้อมทนายความนำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.มธกร ฤทธิ์เนื่อง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีอดีตนักการเมืองคนดัง และเป็นบิดาของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง ได้ผิดสัญญาทำให้เกิดความเสียหายเป็นเงินจำนวนนับล้านบาท..

ชาวชุมพรร้องนายทุนรายใหญ่ในภาคใต้หลอกจองโควตาปลูกต้นกล้าพืชกระท่อม 3 ล้านต้น เกษตรรวมตัวลงทุนนับแสนนับล้านบาทต่อราย หวังปลูกขายให้บริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง สุดท้ายลงทุนฟรี ถูกนายทุนเท ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายค่าชดเชย ฉีกสัญญาหน้าตาเฉย เคยร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กลับไร้ความคืบหน้า ร้อนถึงผู้ว่าฯเป็นตัวกลางช่วยแก้ไข

โดยนางเสาวนีย์ ช่วยชูหนู ได้รับมอบอำนาจให้เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.65 ที่ผ่านมา บุคคลมีชื่อเสียงดังกล่าวได้เรียกประชุมกลุ่มเกี่ยวกับโครงการจองโควตาต้นกล้ากระท่อม ที่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 18 อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ในวันดังกล่าวมีผู้ร่วมประชุมประมาณ 30 คน โดยได้ชักชวนให้ผู้ร่วมประชุมจองโครงการต้อนกล้ากระท่อม โดยอ้างว่าตนเองได้ทำสัญญากับบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ โดยให้ผู้เข้าร่วมประชุมปลูกต้นกล้ากระท่อมแล้วจะรับซื้อในราคาต้นละ 30 บาท มีกำหนดส่งมอบต้นกล้ากระท่อมในเดือนพฤษภาคม 2565 แต่ผู้ร่วมโครงการต้องทำสัญญาจองโควตาการส่งมอบดังกล่าวต้นละ 1 บาท แล้วทางบริษัทจะรับซื้อต้นกล้าพืชกระท่อม..

ในวันดังกล่าวได้มีสมาชิกของกลุ่มจำนวน 17 คนที่เข้าร่วมโครงการ แล้วทำสัญญาจองโคตากับบุคคลดังกล่าวรวมจำนวน 430,000 ต้น โดยแต่ละคนที่ทำสัญญาได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารชื่อบุคคลดังกล่าว หลังจากนั้นผู้ร่วมโครงการทั้งหมดได้ลงทุนปลูกต้นกล้าพืชกระท่อมตามจำนวนที่จองโควตาต้นละ 1 บาท รายละ 10,000-100,000 ต้น รวม 17 คน จำนวน 430,000 ต้น


หลังจากครบสัญญาไปแล้ว กระทั่งต้นเดือนมิถุนายน 65 บุคคลดังกล่าวไม่มารับต้นกล้าพืชกระท่อมจากสมาชิกในกลุ่ม ทางกลุ่มจึงได้ติดต่อกลับไป ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวแจ้งว่า จะจ่ายเงินค่าจองโควตาคืนและจ่ายค่าเลี้ยงดูต้นกล้าให้อีกต้นละ 1 บาท เนื่องจากทางบริษัทที่จะรับซื้อมีปัญหาในการส่งออก จึงไม่สามารถรับซื้อต้นกล้าตามสัญญาได้ และรับปากว่าในวันที่ 15 ก.ค.65 จะจ่ายเงินค่ามัดจำโควตาต้นละ 1 บาท คืนให้และจ่ายค่าเลี้ยงดูต้นกล้าอีกต้นละ 1 บาท รวมเป็นเงินต้นละ 2 บาท แต่เมื่อถึงเวลาไม่ได้นำเงินมาจ่ายให้แต่อย่างใด จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

cr:https://mgronline.com/south/detail/9650000068422

สนช.ปลดล็อก “กัญชา-กระท่อม”แล้ว เล็งจัดโซนนิ่งให้เสพ ไม่ผิดกฎหมาย