3เหตุผล ทำไมไม่ให้กินนมวัว? By กูรูต้นตำรับชีวจิต(1)

ถูกถามอยู่บ่อยๆ ว่าทำไมชีวจิตจึงห้ามกิน นมวัว ดร.สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต ตอบว่า ไม่ได้ห้ามกิน ไม่เคยห้ามเลย เป็นแต่เพียงว่าไม่แนะนำให้กินนมวัว แต่จะแนะนำ (และขู่เข็ญ) ว่าคุณควรจะให้ลูกกินนมแม่ เพราะนมแม่เป็นต้นตอของการสร้าง Immune  System หรือภูมิชีวิตให้แก่ลูก ลูกจะแข็งแรงมีสุขภาพดีต่อไปในอนาคตก็เพราะได้กินนมแม่

ก็จะถูกถามจากบางคนอีกแหละว่า ก็ไม่มีนมให้ลูกกินแล้วจะทำอย่างไรล่ะ สอบถามดูแล้ว ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริงครับ คุณแม่บางคนมีปัญหาเรื่องเต้านม เรื่องต่อมน้ำนม ตั้งแต่วันแรกที่ลูกเกิด ไม่มีนมให้ลูกกิน ถ้าอย่างนั้นก็จำเป็นแหละครับที่จะต้องให้ลูกกินนมวัวหรือนมผง ตามสูตรซึ่งแล้วแต่คุณหมอเด็ก ท่านจะสั่งให้ แต่กินพอลูกโตและหย่านมได้ กินอาหารตามปกติได้แล้วก็น่าจะให้ลูกหยุดกิน นมวัว ได้กระมังครับ..

ทำไมล่ะ อนุญาตให้กินแล้วยังมีข้อแม้ตุกติกกันอีกหรือ ให้กินกันดีๆ ไม่ได้หรืออย่างไร ก็เลยอยากจะคุยกันผ่านผู้อ่านที่สนใจเรื่องการกินนมวัวสักนิด ก่อนอื่นผมขอแนะนำให้รู้จัก ศัพท์สำคัญๆ ทางวิชาการเกี่ยวกับนมวัว..

1. ศัพท์ตัวแรกคือ คาซีน (CASEIN) ซึ่งเป็นโปรตีนตัวสำคัญตัวหนึ่งของนมวัว

เคยมีผู้อ้างกันมากมายว่านมวัวเป็นอาหารที่มีประโยชน์ก็อาจจะจริง ถ้าเราจะลองแยกสารอาหารตัวหลักๆแล้ว เราก็จะได้ สารอาหารหลักๆ 3 ตัว คือ 1. โปรตีน 2. ไขมัน 3. แร่ธาตุ

โปรตีนนั้นไม่ใช่สารอาหารตัวโดดๆ แต่ใยโปรตีนจะต้องแตกตัวออกเป็นกรดแอมิโน หรืออะมิโน (Amino  Acid) เปรียบเทียบให้ฟังอย่างง่ายๆ ว่า ถ้ากำแพงฝาผนังกำแพงหนึ่งคือโปรตีน เราเลาะเปลือกนอกของกำแพงออก จะเห็นภายในกำแพงมีอิฐเรียงเป็นแถวๆ อยู่ในกำแพง

ถ้ากำแพงคือโปรตีน อิฐเรียงเป็นแผ่นๆ ในกำแพงนั้นก็คือ กรดแอมิโน

มีกรดแอมิโนหลายร้อยตัวในโลกนี้ แต่ กรดแอมิโนที่ร่างกายมนุษย์ต้องการนั้นมีอยู่ด้วยกัน 22 ตัว คือ ALANINE, ARGININE, ASPARAGINE, ASPARTIC  ACID, CYSTEINE, CYSTINE, GLUTAMIC  ACID, GLUTAMINE, GLYCINE, ISOLEUCINE, LEUCINE, LYSINE,  METHIONINE, ORNITHINE, PHENYLALANINE, PROLINE, SERINE, TAURINE, THREONINE, TRYPTOPHAN, TYROSINE, VALINE

ถ้าจะนับเพิ่มอีกหนึ่งตัวคือ HISTIDINE ก็จะเป็น 23 ตัว แต่โดยเหตุที่กรดแอมิโนตัวนี้มีความจำเป็นสำหรับเมื่อตอนเป็นเด็กเท่านั้น เมื่อเติบโตขึ้นแล้ว เจ้ากรดแอมิโน HISTIDINE ก็ไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป..

ขอโทษนะครับที่ต้องเอาศัพท์แสงยากๆ เกี่ยวกับโปรตีนมาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องซึ่งฟังดูแล้วค่อนข้างจะรกหู แต่ฟังไว้พอประดับเป็นความรู้ก็แล้วกันว่า กรดแอมิโนซึ่งร่างกายต้องการนี้มีอยู่ 22 ตัวเท่านั้น ถ้าเกินจากนี้ร่างกายมนุษย์ไม่ต้องการกรดแอมิโนบางตัวกลายเป็นโทษต่อร่างกายมนุษย์ด้วยซ้ำ

มาถึงคาซีนที่ระบุไว้ในตอนต้น เจ้าคาซีนนี้เป็นโปรตีนสำคัญอยู่ในนมวัว แต่ในนมคน (นมแม่) ก็มีเจ้าโปรตีนคาซีน(Casein / เคซีน) ตัวนี้เหมือนกัน แต่มีน้อยมากเมื่อเทียบกับคาซีนในนมวัว

สมมติว่าในนมคนมีคาซีน 1 กรัม ในนมวัวจะมีคาซีนถึง 300 กรัม แปลว่านมวัวมีคาซีนมากกว่านมคนถึง 300 เท่า

เจ้าคาซีนตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถจะบันดาลให้เจ้าลูกวัวโตเป็นสองเท่าภายในเวลาสองเดือน ในขณะที่ลูกมนุษย์เวลากินนมแม่เข้าไปซึ่งก็มีคาซีนอยู่บ้างเหมือนกัน จะโตขึ้นเป็นสองเท่าได้ต้องใช้เวลาถึง 6 – 7 เดือน..

เป็นธรรมชาติของลูกวัวซึ่งจะต้องโตอย่างรวดเร็วภายในสองเดือน ที่เติบโตได้รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ก็เพราะอิทธิฤทธิ์ของเจ้าคาซีนนี้เอง และเจ้าคาซีนนี้ก็จะบันดาลให้วัวเจริญเติบโตต่อไป ถึงแม้จะหย่านมแล้ว ก็คือจะทำให้โตได้ถึงน้ำหนักเกือบหนึ่งตัน หรือเกือบ 1,000 กิโลกรัม (สำหรับวัวฝรั่งตัวโต เขาโง้ง โตเหมือนลูกช้าง)

นี่เพราะฤทธิ์เดชของคาซีนซึ่งเป็นโปรตีนอยู่ในนม ธรรมชาติสร้างคาซีนขึ้นมาเพื่อให้วัวเติบโตอย่างรวดเร็ว และเติบโตเจริญอย่างเต็มที่ได้ขนาดเกือบเท่าลูกช้างนั้นนี่คือธรรมชาติ

แต่ลูกคนซึ่งต้องกินนมวัว ซึ่งบรรจุด้วยคาซีนมากมายเกินกว่าความต้องการของการเจริญเติบโตตามธรรมชาติ (เกินความต้องการถึง 300 เปอร์เซ็นต์) สภาพจะเป็นอย่างไร?

จริงแท้แน่นอน เด็กจะอ้วนท้วนแข็งแรง แต่เมื่ออ้วนท้วนแข็งแรงแล้ว ถึงระยะเวลาที่จะกินอาหารตามปกติเหมือนเด็กทั่วไปได้ ก็ยังไม่ให้เด็กหยุดกินนมวัว เด็กบางคนกินนมวัวไปจนถึง 7 – 8 ขวบ หรือบางคนกินนมจนเข้าเขตเป็นหนุ่มเป็นสาวก็ยังมี..

ความอ้วนแข็งแรงเช่นนั้นไม่ใช่ความแข็งแรงตามธรรมชาติ แต่เด็กจะมีโปรตีนมากเกินไป มีไขมันสะสมในตัวมากเกินไป ผสมกับแฟชั่นของอาหารจานด่วนสมัยนี้ เด็กกินอาหารโปรตีน (เนื้อ นม ไข่ มากเกินไป ผสมกับของหวานและแป้งขาวมากเกินไป) ความแข็งแรงของเด็กจึงกลายเป็นความอ้วนจ้ำม่ำ อุ้ยอ้าย ความแข็งแรงนั้นจึงกลับกลายเป็นความอ่อนแอ

อะไรก็ตามที่มากเกินไป ไม่มีความพอดี ย่อมกลับกลายเป็นโทษ (สูตรคาซีน + เนื้อนมไข่ + อาหารจานด่วน)..

จาก คอลัมน์เปิดประตูหลังบ้าน นิตยสารชีวจิต ฉบับ 211

ติดตามตอน 2 ที่นี่ ..

คู่มือการกิน..คิดง่าย ทำยาก จริงหรือ