เงินๆงานๆ-อาชีพ » ชาวเบตงปลูกอะโวคาโดจนติดผล และเพาะพันธุ์ต้นกล้าขาย

ชาวเบตงปลูกอะโวคาโดจนติดผล และเพาะพันธุ์ต้นกล้าขาย

14 ธันวาคม 2021
1126   0

ชาวเบตงปลูกอะโวคาโดจนติดผล และเพาะพันธุ์ต้นกล้าขาย

ยะลา – ชาวเบตงใช้เวลาว่างหลังเลิกงานขายลูกอะโวคาโด ผลไม้ยอดฮิตของคนรักสุขภาพ และเป็นที่นิยมในการซื้อไปรับประทาน และยังเพาะกล้าพันธุ์ขายสร้างรายได้อีกทาง

..25 มิ.ย. ที่หลังอาคารอเนกประสงค์ เทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านพักของ นางปรีดา ธิวัง อายุ 55 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานเทศบาลเมืองเบตง ดูแลอาคารอเนกประสงค์ของเทศบาลเมืองเบตง ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่นิยมชมชอบรับประทานลูกอะโวคาโด ซึ่งเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ หลังจากรับประทานแล้วได้ลองนำเอาเมล็ดไปเพาะพันธุ์ดู ปรากฏว่า ขึ้นง่ายโตไว ตนเองเลยทำการเพาะเมล็ดพันธุ์อะโวคาโดขาย

โดยขณะนี้อายุของต้นกล้าอะโวคาโดที่ได้พันธุ์มาจากเพื่อนชาว จ.น่าน เพียง 1 ต้น ซึ่งเป็นพันธุ์โพลล็อค ได้มาทดลองปลูกซึ่งปลูกมาได้ประมาณ 6 ปีแล้ว ในช่วงแรกหลังรับประทานได้ลองนำเอาเมล็ดไปลองเพาะพันธุ์ดู ปรากฏว่า ผ่านไป 6 เดือน ต้นอะโวคาโดขึ้นง่าย และโตไว และมีคนต้องการซื้อ ตนเองเลยทำการเพาะเมล็ดพันธุ์อะโวคาโดขาย ในราคากล้าละ 300 บาท ใครสนใจติดต่อได้ที่ 06-2997-0877

ที่ผ่านมา ตนเองใช้เวลาว่างช่วงวันหยุด และเลิกงานนำเมล็ดที่เหลือจากการรับประทานมาเพาะต้นกล้าขาย ดูแลมาเป็นเวลา 8 เดือน ขณะนี้ต้นอะโวคาโดพร้อมที่จะนำไปปลูก

การปลูกอะโวคาโด ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกง่ายแทบไม่ต้องมีการดูแลมากมายอะไร สามารถปลูกแซมในสวนผลไม้อื่นได้ เหมือนสวนของ นางปรีดา ที่ปลูกแซมพืชผักสวนครัว ถ้าพันธุ์ที่ต้นเล็กจะมีทรงพุ่มเล็ก ก็จะสามารถปลูกโดยใช้ระยะปลูก 6 เมตรต่อ 1 ต้น หากเป็นพันธุ์ที่ต้นใหญ่จะใช้ระยะปลูก 8 เมตรต่อ 1 ต้น เพื่อไม่ให้แออัดเกินไป เมื่อต้นสูงประมาณ 1 เมตร ก็ให้ปุ๋ยบ้าง 1-2 เดือนครั้ง อะโวคาโดเป็นพืชที่ต้องการน้ำสม่ำเสมอ

มารู้จักกับ อะโวคาโด /ปลูกได้ผลแล้วรวย..

หลังปลูกผ่านไป 3 ปี ก็สามารถให้ผลผลิต และเก็บเกี่ยวได้แล้ว และจะให้ผลผลิตมากขึ้นเมื่ออายุ 5-6 ปี สำหรับต้นอะโวคาโด ของ นางปรีดา ผลผลิตต้นหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 100-200 กก. อะโวคาโด จะให้ผลผลิตประปรายตลอดทั้งปี แต่จะมีผลผลิตมากในช่วงเดือน มิ.ย-ก.ค. หรือในช่วงฤดูฝนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา

วิธีการปลูกต้นอะโวคาโด
เริ่มต้นจากการเพาะเมล็ด มี 3 แบบ คือ..

แบบแรกคือ แบบทั่วไปทำง่าย โดยการใช้ไม้จิ้มฟันเสียบรอบเมล็ดอะโวคาโด ไม้จิ้มฟันเป็นตัวค้ำยัน แล้วจุ่มแช่น้ำเอาไว้จนกว่ารากจะงอก

แบบที่ 2 แบบมีวัสดุช่วย คือ ห่อกระดาษชำระ ควรเลือกกระดาษชำระที่ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน เพราะหากกระดาษชำระมีสารเคมี เช่น สารเพิ่มกลิ่นหอม หรือสารเพิ่มความขาว เมล็ดจะไม่งอก และจะเน่าไปเลย โดยสามารถนำกระดาษชำระมาห่อเมล็ดเพียงครึ่งลูกแล้วจุ่มน้ำจนชุ่ม รอให้รากงอก

แบบที่ 3 แบบมีวัสดุช่วยอื่นๆ เช่น ขุยมะพร้าว หรือดินใส่ลงไปแล้วก็จัดการกดเมล็ดอะโวคาโดให้จมลงครึ่งลูก รดน้ำให้ชุ่ม

โดยทั้ง 3 วิธีนี้เมื่อทำเสร็จแล้วให้จัดการปิดขวดจนกว่าจะมีราก และยอดแทงออกมาจากเมล็ดอะโวคาโด จึงค่อยเปิดฝา และเติมน้ำอย่าให้ขาด ระยะเวลารากงอกนั้นรอไปอีกสัก 2-3 เดือนจนกว่ารากจะงอกออกมายาว และแข็งแรงพอ และมีใบอ่อนสัก 5-6 ใบ จากนั้นจึงจะสามารถนำไปปลูกลงดิน หรือลงในกระถางได้

ขั้นตอนต่อไปเมื่อได้ต้นกล้าแล้วควรจำไว้ว่า ต้นอะโวคาโดชอบแดดจัดแต่ไม่ชอบร้อน จึงควรวางกระถางในที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มวันในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อบอ้าว หากอากาศร้อนเกินควรพรางแสงด้วยการวางกระถางไม้อื่นเพื่อช่วยเป็นพี่เลี้ยง หรือปลูกลงดินในที่ที่มีแสงไม่จัดมากก็ได้ เช่น ปลูกใต้ต้นมะละกอแซมในสวนผลไม้อื่น หรือหาวัสดุมาพรางแสงมาบัง

..จากนั้นให้รดน้ำ 2 วันครั้ง ต้นอะโวคาโดไม่ชอบน้ำแต่ก็ไม่ควรให้ขาดน้ำ รดน้ำไม่ให้แฉะและไม่ชื้นจนเกินไป มิฉะนั้นรากจะเน่า ดินต้องระบายน้ำได้ดี แนะนำดินร่วนปนทรายผสมขุยมะพร้าวหรือกาบมะพร้าวสับ การแยกต้นกล้าลงดินไม่ควรให้น้ำท่วมราก รากจะเน่า ต้นอะโวคาโดหาน้ำเองเก่ง หากเพาะเมล็ดให้เกิดรากแก้วจะดูแลง่ายกว่า

เมื่อต้นอ่อนในกระถางมีความสูงประมาณ 6-7 นิ้ว ให้ตัดยอดออก เพื่อช่วยเร่งให้เกิดการแตกยอดใหม่ และเมื่อมีความสูงประมาณ 12 นิ้ว ก็ให้เด็ดยอดอ่อนออกให้แตกยอดใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะได้ทรงพุ่มสวย รอบโคนต้นไม่ควรมีวัชพืช เพราะจะมาแย่งอาหารหมดทำให้ต้นโตช้า

นางปรีดา บอกอีกว่า ในสถานที่หลังโรงยิมเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ตนยังเพาะต้นกล้าอะโวคาโดขายเพื่อเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ และประกอบกับตนเองชอบต้นไม้อยู่แล้ว จึงเห็นว่าเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้หลังเลิกงาน และในวันหยุด ต้นอะโวคาโด เพียงต้นเดียว สามารถขายลูกอะโวคาโดได้ลูกละ 80 บาท และเพาะกล้าอะโวคาโด กล้าละ 300 บาทขายด้วย 

“โดยในรุ่นแรกสามารถสร้างได้เมื่อปี 2559 ได้เงินมา 2,500 บาท ต่อมา ในปี 2560 ได้เงินมา 4,000 กว่าบาท และรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 ในปี 2561 คาดว่าอาจสร้างรายได้ถึง 5,000 บาทเศษ ส่วนต้นกล้าต้นอะโวคาโด เพาะมากี่ต้นก็ไม่พอขายต่อความต้องการของผู้ที่สนใจ” นางปรีดา กล่าว

cr-https://mgronline.com/south/detail/9610000063116
https://www.google.com/search?clientb-d&q=%E0%B…

มารู้จัก อะโวคาโด พันธุ์การค้า ลักษณะและความเหมาะสมในการปลูก