เพจหมอประสานโอด..โควิดระบาดในไทยไม่ไหว รีบแก้ก่อนเจอภาวะล่มสลายทางสาธารณสุข
ส่องเพจหมอ ประสานเสียงร้องหายนะจ่อมาเยือนเร็ววัน หลังเตียง ICU ใกล้เต็ม อีกไม่นานอาจเปลี่ยนเป็นยุคเมรุเต็มแทน ด้าน อ.เจษฎา แนะวิธีการแก้ไขปัญหา ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป..
ล่าสุด 24 มิถุนายน 2564 บรรดาบุคลากรทางการแพทย์ เริ่มมีการส่งเสียงผ่านเฟซบุ๊กมากขึ้นเรื่อย ๆ เรียกร้องให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อย่านิ่งดูดายกับมหันตภัยที่กำลังย่างกรายเข้ามาอีกครั้ง..
สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดที่กลุ่มหมอโพสต์ร้องเรียน แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ว่าแย่แล้ว นั่นคือ เตียงคนไข้ไอซียูที่กำลังจะเต็ม อีกไม่นานน่าจะเข้าสู่สถานการณ์ที่ต้องเลือกว่าจะรักษาชีวิตใครและปล่อยใครออกไป คล้ายกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักในช่วงแรกของประเทศฝั่งตะวันตก
นอกจากเตียงไอซียูจะเต็มแล้ว เตียงผู้ป่วยธรรมดาก็เข้าขั้นแน่น เริ่มจะรองรับผู้ป่วยใหม่ไม่ไหว ทำให้มีผู้ป่วยตกค้างอยู่ที่บ้าน ยังไม่ได้รับการรักษาอีกเพียบ การโทรเรียกรถฉุกเฉิน 1669 ก็อาจจะต้องรอ ดังนั้นก็อาจจะมีคนเสียชีวิตที่บ้านมากขึ้น เพราะรักษาไม่ทัน
อ.เจษฎา แนะวิธีแก้ปัญหานี้
ด้าน นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาเตียงเต็มว่า การลดความแออัดของเตียงคนไข้ได้นั้นคือ ต้องยอมใช้ระบบ Home Isolate คือ การรักษาตัวที่บ้าน สำหรับผู้ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ เหมือนในต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ต้องรีบตัดสินใจทำ ก่อนที่จะเจอภาวะล่มสลายทางสาธารณสุข
ทั้งนี้ การเอาผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการหรือป่วยเพียงเล็กน้อยไปรักษาที่โรงพยาบาล คนกลุ่มนี้จะสามารถหายเองได้ใน 14 วัน หลังจากที่ผ่านช่วงไข้สูงและปวดเมื่อยไปแล้ว ซึ่งเราควรเก็บเตียงพยาบาลไว้ให้ผู้ที่มีความจำเป็นสูงมากกว่า รวมถึงผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ที่ขาดแคลนเตียงไปด้วย เพราะเตียงนำมาใช้กับผู้ป่วยโควิด 19 หมด
สิ่งที่รัฐควรทำสำหรับการรองรับการรักษาตัวที่บ้านคือ การออกระเบียบ แนวปฏิบัติอย่างละเอียด สำหรับคนที่กักตัวที่บ้านอย่างละแบบ เช่น บ้าน คอนโด ชุมชนแออัด ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง เชื่อว่า นโยบายนี้สามารถทำได้ แต่มีปัญหาคือ ยังไม่ตั้งใจทำเท่านั้น
ขณะที่ประชาชนธรรมดา ก็ล้วนเป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเจอภาวะแบบนี้ ทำให้ต้องทำงานอย่างหนัก พร้อมผู้บริหารระดับบนที่ไม่มีนโยบายแก้ไขปัญหาที่ประสบความสำเร็จ ทั้งที่ระลอกที่ 3 ผ่านมา 2 เดือนครึ่งแล้ว แต่ยอดผู้ป่วยไม่ลด ซ้ำร้ายยังเพิ่มขึ้นอีก