เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาอ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี สูญกว่า 15 ล้าน ปลากดคังลอยตายกว่า 100 ตัน
เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากดคังทองผาภูมิ น้ำตานอง ตายไม่ต่ำกว่า 100 ตัน เสียหายกว่า 15 ล้านบาท หวังรวยรอบนี้ กลับทรุด คาดเพราะเหตุการณ์แผ่นดินพลิก ทำน้ำขุ่น..
23 ม.ค.64 อ่าวที่เกษตรกรชาวบ้านผู้เลี้ยงปลากดคังหมู่ที่ 2 บ้านปิล็อกคี่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เกือบ 30 ราย ได้รับความเดือดร้อนจากปลากดคังในกระชังที่เลี้ยงมากว่า 3 ปี ตายลอยทั้งหมดอย่างไม่ทราบสาเหตุมาเป็นเวลา 3 วัน
จึงเร่งให้ออกซิเจนในกระชังปลา และย้ายกระชังออกไปกลางอ่าว แต่ไร้ผล ปลาขนาดใหญ่มีตั้งแต่ 3 กิโลกรัม ไปจนถึง 8 กิโลกรัม ได้หงายท้องทุกกระชังไม่สามารถช่วยได้ จนต้องเร่งเก็บปลาขึ้นฝั่งไปกองรวมอยู่ริมตลิ่งยาวนับเป็นกิโลเมตร..
พบฝูงกาลงกิน และปลาทั้งหมดเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วคลุ้งน้ำ วอนหน่วยงานภาครัฐเร่งช่วยไม่เช่นนั้นสิ่งตามมาคือเชื้อโรค เนื่องจากปลานับ 100 ตัน ได้นำขึ้นมากองไว้ริมตลิ่ง ยังไม่ทราบจะทำอย่างไร หากปล่อยให้อยู่ในน้ำอาจจะทำให้น้ำเสียได้ เจ้าของกระชังปลาเร่งเก็บกู้ขึ้นฝั่งมาเป็นวันที่ 4 แล้ว ยังไม่หมด
สำหรับกลุ่มเกษตรกรได้เลี้ยงปลากลุ่มนี้มากว่า 10 ปี เพิ่งเจอปัญหา ที่เคยเจอแค่ปลาติดเชื้อโรคสามารถรักษาได้ แต่มาครั้งนี้ ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้นปลากระชังในอ่าวทั้งหมดตายทุกกระชัง ไม่สามารถช่วยหรือนำขึ้นมาแปรรูปได้เลย จนปลาเกิดเน่าเริ่มส่งกลิ่นเหม็น ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปช่วยดูแลแต่อย่างใด และปลาในกระชังจะเก็บขึ้นจากน้ำได้คาดว่าอีกเป็นอาทิตย์จึงจะหมด ที่เก็บขึ้นมาแล้วหลายสิบตัน เสียหายครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท
ทุกคนสิ้นเนื้อประดาตัวไปตามๆ กัน รายใหญ่กระทบมาก รายเล็กกระทบน้อย แต่สุดท้ายโดนทุกรายหมดทั้งอ่าว วอนภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาบ้างก็ดี เพราะเกษตรกรกลุ่มนี้เดือดร้อนหนักสาหัสจริงๆ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาแต่ละกระชังได้กล่าวให้กับสื่อด้วยน้ำเสียงจุกๆ ในหัวอก และกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะทุกคนฝากความหวังไว้กับปลาเหล่านี้มาทั้งชีวิต หมดไปด้วยพริบตาต้องล้มทั้งยืนกันถ้วนหน้า
ด้าน นางนิ่มนภา ตุมรสุนทร เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ในพื้นที่บริเวณอ่าวพระธาตุโบอ่อง กล่าวว่า ปลาชุดนี้เลี้ยงมา 4 ปี และที่จับไม่ได้เพราะติดโควิด-19 นัดจะมาจับช่วงปีใหม่ ไม่คาดจะเจอแบบนี้ ลงเต็มที่หมดทุนไปเกือบ 10 ล้าน กะว่าจับครั้งนี้จะมีเงินเหลือจากใช้หนี้สิ้นแล้วนำไปปลูกบ้าน ทุกวันนี้ยังเช่าเขาอยู่ สุดท้ายปลาตายหมดทั้งอ่าว
เกษตรกรที่เลี้ยงมีประมาณ 30 เจ้า เป็นหมด นับ 100 กระชัง หากขายปลาหน้ากระชังแต่ละช่องไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท กระชังหนึ่งมี 10 ช่อง บางครั้งได้ช่องละเกิน 1 ล้านบาท ทั้งหมดเกิน 10 ล้านบาท ของตนมีทั้งหมด 30 กระชัง 30 ช่อง ตอนนี้ล่มสลายทั้งหมด อยากฝากหน่วยงานเข้ามาเยียวยาบ้าง เพราะเคยไปลงทะเบียนกับทางหน่วยงานรัฐด้วยเช่นกัน วอนขอให้รัฐช่วยมากน้อยบ้างก็ยังดี
นางนิ่มนภา กล่าวอีกว่า คงจะต้องเลี้ยงปลาเช่นเดิมเพราะลงทุนไปเยอะมาก เลี้ยงปลากดคังมาเกือบ 20 ปี และช่วงนี้เลี้ยงมากที่สุดในชีวิต กะจับแล้วมีเงินเหลือไปสร้างบ้านดีๆ อยู่สุดท้ายความฝันพังทลายสิ้นในพริบตา
ขณะที่ลูกเขยของนางนิ่มนภา กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุการณ์ตนไม่อยู่ ไปรับอาหารมาให้ปลา และทราบว่าเกิดปรากฎการณ์แผ่นดินพลิกแล้วน้ำในอ่างแห่งนี้เกิดขุ่น หลังจากนั้นแรกๆ ปลาในกระชังก็เริ่มตายลอยเหนือน้ำอย่างรวดเร็ว จนวันนี้ไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน หากรัฐช่วยบ้างก็ดีเพื่อนำทุนมาดำเนินการกับชีวิตต่อไป อยากจับแต่เจอปัญหาโควิด ทางผู้ซื้อก็เลื่อนมาตลอด จนมาเจอสถานการณ์เช่นนี้ สำหรับกระชังของตนก็หมดไปกว่า 5 ล้านบาท หลังจากนี้จะทำอะไรขอเวลาคิดดูก่อนเพราะเวลานี้ก็ไม่เหลืออะไรแล้ว.
ขอบคุณhttps://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5801896
>ใช้แกลบหรือขี้แพะ..ทำรายได้เสริม เผาถ่านวิธีง่ายๆ