เตือนภัย » เขียนเว่อร์หรือจริงนะ?? ผู้ป่วย Covid -19 มันสร้างความเจ็บปวด เพราะต้องสอดท่อลงไปในลำคอและคาไว้..

เขียนเว่อร์หรือจริงนะ?? ผู้ป่วย Covid -19 มันสร้างความเจ็บปวด เพราะต้องสอดท่อลงไปในลำคอและคาไว้..

19 มกราคม 2021
1172   0

เขียนเว่อร์หรือจริงนะ?? ผู้ป่วย Covid -19 มันสร้างความเจ็บปวด เพราะต้องสอดท่อลงไปในลำคอและคาไว้..

รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย โพสต์เฟซบุ๊ก suvinai pornavalai ระบุว่า “ผมกลัว” ที่จะติดเชื้อ Covid-19

ผมจึงทำตามที่รัฐบาลบอก คือ”อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และจะออกจากบ้านเมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น

ผมเชื่อว่าใครที่ติดเชื้อ Covid-19 ชีวิตจะไม่มีวันกลับไป”ปกติ” เพราะปอดจะไม่ทำงานเต็มร้อยอีกแล้ว

แต่ก่อนที่จะเสียชีวิต หากคุณติดเชื้อ รู้ไหมว่ามันทรมานแค่ไหน

คุณรู้ไหมว่าการรักษาโรคปอดติดเชื้อ Covid -19 มันไม่ใช่แค่ใส่หน้ากากออกซิเจน แล้วนอนอ่านหนังสือ หรือเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงสบายๆในโรงพยาบาล

หากแต่เครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วย Covid -19 มันสร้างความเจ็บปวด เพราะต้องสอดท่อลงไปในลำคอและคาไว้จนกว่าคุณจะหายหรือตายภายใน 2-3 สัปดาห์โดยไม่สามารถขยับตัว

การรักษานี้ คนไข้จะถูกจับให้นอนคว่ำกลับหัว มีท่อหายใจต่อจากปากของคุณขึ้นไปที่เครื่องช่วยหายใจ ไม่สามารถพูดหรือกินหรือขับถ่ายได้ตามปกติ..

แถมเจ็บปวดทรมานตลอดเวลา

ที่แพทย์ช่วยได้ก็คือให้ยานอนหลับและยาแก้ปวดเพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้สามารถอดทนต่อความเจ็บจากการใส่ท่อช่วยหายใจ เหมือนอยู่ในอาการโคม่าเทียม

ผ่านไป 20 วัน ผู้ป่วยจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ 40 % และมีแผลในปากหรือหลอดลม เช่นเดียวกับปอด เกิดภาวะแทรกซ้อนของหัวใจ

นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้คนแก่ หรือผู้ป่วยโรคอื่น เช่น ความดัน หัวใจ ไม่สามารถทนการรักษาได้ และอาจตายในที่สุด

ขอย้ำว่า นี่ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่

การให้อาหารเหลวใส่หลอดเข้าไปในท้องของคุณไม่ว่าจะผ่านจมูกหรือทางเส้นเลือด การที่ต้องมีพยาบาลมาช่วยขยับแขนขาทุกสองชั่วโมงเพื่อป้องกันแผลกดทับและต้องนอนบนเตียงน้ำที่เย็นเพื่อช่วยลดอุณหภูมิ 40 องศาของคุณ

“มันไม่ใช่เรื่องสนุก”

และคนที่บ้านเป็นทุกข์แน่ๆ …

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทางตะวันตกปล่อยให้ตาย ไม่รับรักษา เพราะสิ้นเปลือง …

ผมกลัว ผมจึงอยู่บ้าน

ถ้าคุณไม่กลัว ก็ตามสบายเลย ไม่สวมหน้ากากตอนออกจากบ้าน ไม่รักษาระยะห่าง ไปในที่สุ่มเสี่ยง

นี่เป็นเรื่องความรับผิดชอบที่คุณมีต่อครอบครัวของคุณเอง