ตั้งแต่ 1 ต.ค.2563น้ำมันดีเซล B10 เปลี่ยนไปเรียกว่า “ดีเซล” / รถรุ่นไหนใช้ได้บ้าง?
รัฐบาลประกาศให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของประเทศไทย โดยมีน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 เป็นน้ำมันทางเลือกสำหรับรถเก่าและรถยุโรป และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 เป็นน้ำมันทางเลือกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่
*อัปเดต เปลี่ยนชื่อน้ำมันดีเซล
– น้ำมันดีเซล เปลี่ยนไปเรียกว่า “ดีเซล B7”
– น้ำมันดีเซล B10 เปลี่ยนไปเรียกว่า “ดีเซล”
*เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
ส่วนน้ำมันดีเซล B20 กระทรวงพลังงานกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาให้ยกเลิกจำหน่าย
ดีเซล B10 คืออะไร
ดีเซล B10 คือน้ำมันดีเซลธรรมดา แต่มีความแตกต่างกันที่สัดส่วนผสมไบโอดีเซล คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 9 – 10% ดีเซลหมุนเร็วธรรมดา B7 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 6.6 – 7.0% และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 19 – 20%
การเลือกใช้น้ำมันดีเซลสำหรับรถยนต์
น้ำมันดีเซลมี 3 ประเภท ซึ่งมีคุณบัติเหมือนกันทุกประการ
– B10 ใช้สำหรับรถดีเซลทั่วไป เช่น โตโยต้า, อีซูซุ, นิสสัน, ฟอร์ด, เอ็มจี, เชฟโรเลต, มิตซูบิชิ, วอลโว่ (ใหญ่), ฮีโน่, บีเอ็มดับเบิ้ลยู (ใหญ่), เดมเลอร และเบนซ์ (ใหญ่) เป็นต้น
– B7 ใช้กับรถเก่า รถยุโรป เช่น เบนซ์, ฮุนได, ทาทา, บีเอ็มดับเบิ้ลยู, ฮอนด้า, มาสด้า, ออดี้, เปอโยต์, และวอลโว่ (เล็ก) เป็นต้น
– B20 ใช้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่
รถรุ่นไหน ที่สามารถเติมดีเซล B10 ได้บ้าง
ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อยี่ห้อ/รุ่นรถยนต์ ที่สามารถใช้ดีเซล B10 ได้ที่นี่ คลิก
ประโยชน์จากการใช้ดีเซล B10
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ในกระบอกสูบให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ เพราะมีออกซิเจนผสมอยู่ประมาณ 10% ทำให้น้ำมันมีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะดีเซล B10 ถูกกว่าดีเซลเดิมลิตรละ 2 บาท
- ช่วยแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันแบบยั่งยืน สร้างเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน (ทำให้ราคาสูงขึ้น)
- ช่วยประเทศนำเข้าน้ำมันวันละ 1.8 ล้านลิตร
- ช่วยลดฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากมีสัดส่วนไบโอดีเซลที่มากขึ้น 9 – 10% ย่อมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า.