ประเดิมเริ่มเรื่อง .. เชื่อมั๊ย ยุคโบราณ คนไทยกินรำ ไม่ได้กินข้าวนะ..
นิทานพื้นบ้านที่เล่ากันในจังหวัดสงขลา ” แก่นข้าว”
ในสมัยก่อนมนุษย์เราไม่รู้จักกินข้าว คงกินแต่รำข้าว เมื่อทำนาได้ข้าวก็จะฝัดเอาแต่รำมากินส่วนเมล็ดข้าวซึ่งเรียกว่า”แก่นข้าว”จะทิ้งเป็นกองๆอยู่ทั่วไป
ต่อมามีครอบครัวหนึ่งลูกเล็กคนหนึ่งไม่ยอมกินรำข้าว เมื่อพ่อแม่จะต้มรำข้าวให้กินเหมือนลูกคนอื่นทั่วไปเด็กคนนั้นจะไม่ยอมกินและร้องขึ้นทุกครั้งจนพ่อแม่รู้สึกรำคาญจึงพูดประชดว่า ..
“หมึงอีกินอ้ายไหรหา ร้องๆเดี๋ยวกูต้มแก่นข้าวให้กินให้ตาย ๆ ไปเสียแหละ”
พอพ่อแม่พูดเช่นนั้น ลูกคนนั้นก็หยุดร้อง แต่อยู่สักครู่ก็ร้องอีกพ่อแม่จึงพูดด้วยอารมณ์เสียอีกว่า
“ทีนี้กูเอาแก่นข้าวมาต้มให้กินจริง ๆ แหละ ร้องไปต้า”
..ลูกคนนั้นก็หยุดร้องอีก พ่อแม่จึงไปเอาแก่นข้าวต้มให้กินจริงปรากฏว่าลูกคนนั้นดีอกดีใจ กินข้าวได้มาก และเมื่ออิ่มก็นอนหลับ ฝ่ายพ่อแม่ตกใจมากนึกว่าลูกตายแล้ว เพราะกินแก่นข้าวซึ่งคนเขาไม่กินกันเข้าไปมาก
ก็ได้แต่ร้องห่มร้องไห้ ฝ่ายลูกนอนหลับสักครู่ก็ตื่นขึ้นมายิ้มแล้วหัวเราะอย่างสุขใจ พ่อแม่เห็นเช่นนั้นก็ดีใจจึงต้มแก่นข้าวให้ลูกกินเรื่อยมา จนข่าวนี้ลือไปทั่ว คนจึงได้หันมากินแก่นข้าวแทนรำข้าวกันตั้งแต่นั้นมาจนทุกวันนี้.
จาก https://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php/topic,93512.0.html
❤รวมความคิดเห็นจาก เฟซบุ๊ค เลี้ยงแพะยั่งยืน
●ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วชีวิตจะมีความสุข
●ถ้าสนุก..ก็ไม่ใช่งานหนัก
●เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง วุ่นก็ให้ว่าง.. ทุกอย่างก็สบาย
●คืนที่ท้องฟ้า “มืดที่สุด” เราจะเห็นดาวได้ “ชัดที่สุด”
●พักได้ แต่อย่าหยุด
●จงมองปัญหาให้เหมือนกับ “เม็ดทราย” ถึงจะเยอะมากมาย แต่ทรายก็เล็กแค่ “นิดเดียว”
●สามเรื่องที่น่าเสียใจในชีวิต
พบครูดี…แล้วไม่เรียน
พบเพื่อนดี….แล้วไม่คบ
และพบโอกาส…แล้วไม่คว้าเอาไว้
●อย่าเก็บเอาเรื่อง ทุกข์ใจ มาใส่สมอง
อย่าตัดสินคนอื่น แค่เพียงมอง
●ความทุกข์ เข้ามาเพื่อให้เราได้..เรียนรู้ ไม่ใช่ต้อง..แบกรับ
●ยิ่งเรา “อ่อนแอ” ปัญหาต่างๆ จะยิ่งได้ใจ
ยิ่งปัญหายิ่งใหญ่ เรายิ่งต้องอาศัย..ใจที่ใหญ่กว่ามัน
●คนที่เข้มแข็งไม่ใช่คนที่ไม่เคยร้องไห้ แต่คือคนที่ยังยิ้มได้ ถึงแม้จะผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้ ร้องไห้มาแล้วนับไม่ถ้วน..
●ใครทำเราแค้น ..เราจะตอบแทนด้วยการให้อภัย
ใครทำเราร้องไห้ ..เราจะทำให้คนนั้นเสียดายที่จากเราไป
●ความสำเร็จแต่ละคนมีเส้นขีดไม่เท่ากัน ฉะนั้นอย่าประเมินความสำเร็จของตนเองจากคนอื่น..
●เมื่ออายุเพิ่มขึ้น สิ่งที่ต้องเพิ่มขึ้นคือ “เหตุผล” สิ่งที่ต้องลดลงคือ “อารมณ์”
●อย่าเกลียดคนที่อิจฉาคุณ แต่จงภูมิใจและให้เกียรติที่เขาอิจฉาคุณ
เพราะว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่คิดว่า.. คุณดีกว่าเขา
●เมื่อโกรธจัด.. อย่าเพิ่งตอบข้อความใคร
เมื่อดีใจ.. อย่าเพิ่งให้สัญญา
เมื่อเศร้าหนักหนา.. อย่าเพิ่งตัดสินใจ
●“สติ” …ทำเรื่องใหญ่ๆ กลายเป็นเรื่องเล็ก
“อคติ” …ทำเรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่
●วิธีลืมอดีต…ที่ดีที่สุด
คือทำปัจจุบัน…ให้น่าจดจำ
●“ทุกข์” อยู่ที่ “ถือ”
“สุข” อยู่ที่ “วาง”
จะถือ หรือ จะวาง
ก็ต้องถาม “ใจตัวเอง”
●บางทีการที่เราวิ่งหนี “ความเศร้า” ไม่ได้หมายความว่า เราจะวิ่งไปเจอ “ความสุข”
●มีความสุขได้ ถ้าใจบอกว่า “พอ”
●หากไม่พร้อมจะ ฟัง …
อย่าถาม หรือ ขอความเห็นจากใคร …
เพราะถึงจะเป็นความเห็นที่ดีแค่ไหน
คุณก็จะไม่เข้าใจเพราะ…คุณไม่มีใจจะ “ฟัง”
●โลกนี้ กว้างใหญ่…สำหรับคนใจกว้าง
โลกนี้ อ้างว้าง…สำหรับคนใจแคบ
โลกนี้ คับแคบ…สำหรับคนเห็นแก่ตัว
โลกนี้ ไม่น่ากลัว…สำหรับคนเสียสละ…
●นอกจากพอใจในสิ่งทีมีแล้ว
เราต้องพอใจในสิ่งที่ไม่มีด้วย
เพราะสิ่งที่ทำให้เราทุกข์ใจได้ คือการ “เคยมี”
จาก www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php
“หาตัวเอง…ให้พบ
คบตัวเอง…ให้ได้
ใช้ตัวเอง…ให้คุ้ม
คุมตัวเอง…ให้อยู่
รู้ตัวเอง…ให้จริง”
“เพชรดี…ให้ดูที่เหลี่ยม
ผ้าดี…ให้ดูที่ลาย
ดอกไม้ดี…ให้ดูที่สี
คนดี…ให้ดูที่การกระทำ”
“มนุษย์เราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาความหมายของชีวิต
แต่เราเกิดมา…เพื่อใช้ชีวิตให้มีความหมาย”