เคล็ดลับการบูชา ปี่เซียะ เรียกทรัพย์ดูดแต่สิ่งดีๆเข้ามาให้มั่งมี ร่ำรวยเงินทอง ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้นำพาโชคลาภ
ปี่เซียะ มีพลังแรงกว่าสิงโตคู่ ..คนจีนมั่งคั่งแทบทุกคนต้องมีประจำบ้าน
ปี่เซียะ , ผีซิ่ว และ เผ่เย้า ทั้งสามคำนี้เป็นคำๆเดียวกัน แต่ออกเสียงต่างกันไปตามลักษณะท้องถิ่นของจีน
ปี่เซียะ เป็นยอดเครื่องรางที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้พญามังกร และมีพลังแรงกว่าสิงโตคู่ ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ของจีนที่ได้รับความนิยมทั้งในเมืองไทยและในประเทศต่างๆ มากที่สุดในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เกาะฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะใครมีไว้บูชาจะทำให้มีแต่โชคลาภ ทรัพย์มีแต่เข้าไม่มีออก ขณะเดียวกันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยขจัดอาถรรพณ์ ภูตผีปีศาจ และป้องกันสิ่งชั่วร้าย เมื่อไม่มีรูทวารจึงกินอย่างเดียว ไม่มีถ่ายออก เป็นเคล็ดลับวิชาหมายถึง เงินเข้าแล้วไม่มีออก ทรัพย์จึงเพิ่มพูนสถานเดียว
ปี่เซียะ เป็นสัตว์เทพมงคลที่มีลักษณะครบตามหลักเบญจธาตุ คือ มีสี่เท้าของสิงโตอันทรงพลัง มีเขาและลำตัวเป็นกวางอันอ่อนช้อย มีปีกของพญานกอันแข็งแกร่ง มีส่วนศีรษะของมังกรอันทรงพลัง มีหางแมวอันศักดิ์สิทธิ์ และไม่มีรูทวารหนักและเบา จึงมีอานุภาพในการรับโชคลาภอย่างไม่รั่วไหล และแม่นยำ
ปี่เซียะ มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน สังเกตได้บนพระราชวังของจักรพรรดิจีน หน้าวัดเส้าหลิน หน้าธนาคารในกรุงปักกิ่ง บนหลังคาสถาปัตยกรรมที่สำคัญๆ ของจีน หรือหน้าบอนกาสิโนในมาเก๊าและฮ่องกง นับถือกันว่าเป็นสัตว์ในเทพนิยายชั้นสูง ปี่เซี่ยมีมาตั้งสมัยโบราณนานเกินกว่า 5,000 ปีแล้ว
ปี่เซียะขนาดใหญ่ในเมืองไทย มีอยู่ที่วิหารเซียน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี แกะจากหินแกรนิตขนาดใหญ่ ฝีมือช่างเมืองซัวเถา สาธารณรัฐประชาชนจีน
ปี่เซี๊ยะมีความหมายหลักในการขจัดสิ่งชั่วร้าย คนจีนเชื่อว่าพลังของสัตว์มงคล สามารถบันดาลให้เกิดอำนาจความยิ่งใหญ่ หรือสามารถปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง รวมถึงการขจัดปีศาจ สิ่งชั่วร้ายต่างๆ หนุนเนื่องให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในการค้า หน้าที่การงาน บังเกิดชื่อเสียง เกียรติยศ มั่งมีโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ความรัก การเรียน สามารถขอพรได้สมใจอย่างที่ขอ คือขออะไรได้หมด ยกเว้น ขอในทางที่ไม่ดีไม่ได้นะครับเช่นใช้ไปทำร้ายทำลายคนอื่นไม่ได้ครับ มันผิดศีล..
ปี่เซียะ เป็นเครื่องรางจีนที่ให้คุณกับผู้บูชาทุกสาขาอาชีพ สำหรับคนที่อยากบูชาปี่เซียะ หากอยากได้ของดี ต้องสรรหาลักษณะที่เป็นงานเนื้อหยกแกะสลักจากช่างฝีมือดี แต่ละตัวจะมีรายละเอียดไม่เหมือนกัน เพราะเป็นงานแกะสลักที่ละชิ้น ตัวปี่เซียะต้องมีปากเปิด ไม่ปิด มีเขา มีขาออกมาให้เห็นเด่นชัด ยิ่งหยกเนื้อดีเท่าไร ยิ่งจะมีลายทองอยู่ส่วนบนลายทองนี้ต้องอยู่ในหยกชั้นดีเป็นชิ้นเดียวกัน นอกจากนี้ ปี่เซียะที่ดีต้องมีเครื่องหมายเรียกเงินเรียกทอง เช่น ตำลึงทอง หรือตัวอักษรที่แปลว่าเงินทองด้วย
ให้ลองจับและลองกำปี่เซียะดู หากเป็นของที่ถูกลักษณะและถูกชะตากับผู้นำไปบูชา จะรู้สึกถึงพลังของปี่เซียะ ปี่เซียะที่มีลักษณะดีมากนี้นับว่าหายากมากในเมืองจีน ผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวต้องไปแสวงหาตามแหล่งปี่เซียะชั้นดีได้แก่ เฉินฮัวเหมี่ยว ในเซี่ยงไฮ้, ตลาดฮัวเหนี่ยว ในยูนนาน, มณฑลคุนหมิง และที่กวางเจา ซึ่งถ้าหากไปหาซื้อกับคณะทัวร์มักจะได้ในราคาแพง และเป็นงานฝีมือไม่ประณีตนัก
ที่เรียกว่าได้รูปลักษณะที่ดี คนจีนเชื่อว่าต้องทำมาจากธาตุดินเท่านั้น ลักษณะตามตำราคือ ปากกว้าง หน้าดุ ก้นใหญ่ ตัวผู้จะก้าวเท้าซ้าย ส่วนตัวเมียจะก้าวเท้าขวา ถ้าบูชาไว้ที่ร้านหรือบ้าน ควรวางเป็นคู่ ตัวผู้รับทรัพย์ ส่วนตัวเมียจะเก็บทรัพย์
อิทธิคุณของปี่เซียะ
ปี่เซียะหรือกวางสวรรค์ มีชื่อเดิมว่า “เทียนลก” แต่คนส่วนใหญ่รู้จักในสำเนียงจีนกลางว่า “ปี่เซียะ” คนจีนมีความเชื่อว่า เป็นสัตว์มงคล เป็นลูกตัวสุดท้อง ( ตัวที่ 9 ) ของพญามังกร จะกินแต่เงินและทองเป็นอาหารเท่านั้น ปี่เซียะไม่มีรูทวารจึงกินอย่างเดียว ไม่ยอมถ่ายออก หมายถึงมีแต่เงินเข้าไม่มีไหลออก คนใช้จึงเฮงๆ รวยๆ ยิ่งขึ้น
เป็นสัตว์มงคลประเภทเรียกทรัพย์ บูชาแล้วจะทำให้ธุรกิจการค้าก้าวหน้าร่ำรวย รายได้ดี มีโชคดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง นำมาซึ่งเกียรยศชื่อเสียงมาให้กับผู้ศรัทธาเชื่อถือ ครอบครัวมีแต่ความสุขเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน
ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เกาะฮ่องกง และไต้หวัน ถ้าหากดำเนินธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การเงิน การธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ หรือบ่อนพนัน นิยมสร้างปี่เซียะตั้งไว้ตรงประตูทางเข้า พ่อค้าแม่ค้า และผู้ที่ชอบเสี่ยงโชค นิยมตั้งไว้ที่หน้าร้านหรือพกพาติดตัว เชื่อกันว่าการเงินจะหลั่งไหลเข้าสู่ธุรกิจ ไม่มีการรั่วไหลออก และสามารถขจัดอาถรรพณ์ป้องกันสิ่งชั่วร้ายได้
ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่า ยุค 8 คือ ธาตุดิน ( เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547-2566 ) มีนักกษัตรประจำธาตุดินคือ สุนัข ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้ายุคนี้คนจะหันมาเลี้ยงสุนัข หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสุนัขจะประสบความสำเร็จ และสัตว์มงคลประจำธาตุดินก็คือ ปี่เซียะ
ธาตุดิน หมายถึง ดิน หิน แร่ธาตุ สิ่งที่อยู่บนเนินภูเขาสูง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าตีความหมายดินแดนที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเจริญในยุค 8 คือภายใน 20 ปีข้างหน้านี้ ก็หมายความว่า โซนตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี จะเจริญในยุคนี้
ที่เรียกว่าได้รูปลักษณะที่ดี คนจีนเชื่อว่าต้องทำมาจากธาตุดินเท่านั้น ลักษณะตามตำราคือ ปากกว้าง หน้าดุ ก้นใหญ่ ตัวผู้จะก้าวเท้าซ้าย ส่วนตัวเมียจะก้าวเท้าขวา ถ้าบูชาไว้ที่ร้านหรือบ้าน ควรวางเป็นคู่ ตัวผู้รับทรัพย์ ส่วนตัวเมียจะเก็บทรัพย์
ปี่เซี้ยะนั้นแบ่งออกได้เป็น2 แบบ
แบบเดี่ยวคือ “ขุนพล” ใช้เรียกทรัพย์ สำหรับคนที่ทำอาชีพค้าขาย ธุรกิจ หรือต้องการให้เงินเข้า ไม่เป็นหนี้
แบบคู่คือ “เทพพิทักษ์” ยืนคู่ซ้ายขวา เท้าซ้ายนำหน้าเรียกว่า (แชเล้ง,มังกรเขียว) เป็นตัวผู้ ถ้าเท้าขวานำหน้าเรียกว่า (แปะโฮ้ว,เสือขาว) เป็นตัวเมีย ใช้เฝ้าทรัพย์ สำหรับคนที่หาเงินมาได้แต่ไม่ต้องการให้เงินไหลออก (เก็บเงินไม่อยู่)
ปี่เซียะ มีลักษณะของสัตว์มงคลทั้งห้าชนิดมารวมกันครบ 5 ธาตุ
ธาตุทอง คือ ลักษณะ 4 เท้าของสิงโตอันทรงพลัง
ธาตุน้ำ คือ มีเขาและลำตัวเป็นกวางที่อ่อนช้อย
ธาตุไฟ คือ มีปีกของพญานกอันแข็งแกร่ง
ธาตุไม้ คือ มีศีรษะของมังกรอันทรงพลัง
ธาตุดิน คือ มีหางแมวอันศักดิ์สิทธิ์
สมญานามของปี่เซียะ มีหลากหลายดังนี้
จีนแผ่นดินใหญ่เรียกว่า ตัวดูดเงิน
ฮ่องกงเรียกว่า ตัวรับโชค
ไต้หวันเรียกว่า ตัวเฮง…เฮง
ไทยเรียกว่า ตัวดูดทรัพย์
ปีเซี๊ยะเป็นสัตว์ตามตำนานของจีน เป็นการรวมตัวของสัตว์ 5 ชนิดประกอบด้วย สิงโต มังกร กวาง แมว นกอินทรีย์ ลักษณะของปีเซียะเป็นสัตว์ที่มีญานวิเศษ ส่วนหัวคล้ายมังกรทรงอำนาจ ลำตัวเป็นกวาง กรงเล็บเท้าสิงโตที่ทรงพลัง มีเขามีหนวดใต้คาง หน้าแหงน อกตั้ง มีตาและหางแมวที่ศักดิ์สิทธิ์ มีปีก 2 ข้างของพญานกอินทรีย์ ตั้งแต่อกแนบติดลำตัว หางใหญ่ หน้าดุมาก คึกคะนอง สง่างาม
สัตว์ทั้ง 5 ชนิดมีความหมายดังนี้
พญามังกร (หลง) = ราชาแห่งสัตว์ที่ทรงอำนาจที่สุดในสวรรค์
สิงโต (ซือจื่อ) = ราชาแห่งสัตว์บนพื้นพิภพ ทรงพลังปราบสิ่งชั่วร้ายทั้ง ปวง และเป็นพาหนะของพระโพธิสัตว์มัญชุศรี
พญาอินทรี(อิง) = ราชาแห่งสัตว์บนท้องฟ้าแข็งแกร่งกล้าหาญ โผบินได้ทุกที่
กวาง (ลู่) = เป็นสัตว์มงคลหมายถึง ยศถาบรรดาศักดิ์ ตัวแทนแห่งความยั่งยืนร่ำรวยพร้อมชื่อเสียง
แมว(มาว) = เป็นสัตว์ตาทิพย์ มองเห็นที่มืด และสิ่งชั่วร้ายได้ หางสามารถขจัดปัดสิ่งชั่วร้าย ขณะเดียวกันก็กวาดโชคลาภเข้าบ้านด้วย
ปี่เซี๊ยะตามหลักเบญจธาตุ
ปี่เซียะ เป็นสัตว์มงคลลูกผสม 5 ชนิด คือ
มังกร (หลง)เป็น ธาตุไม้ สิงโต (ชีจื่อ)เป็นธาตุทอง
อินทรี (อิง) เป็น ธาตุไฟ กวาง (ลู่) เป็นธาตุน้ำ
แมว (มาว) เป็นธาตุดิน
ความเชื่อ ปีเซียะเป็นวัตถุมงคลที่เป็นยอดนิยมมากที่สุดในปัจจุบันพบเห็นได้ทั่วไป ได้รับศรัทธา เชื่อถืออย่างแรงกล้า ได้รับการแนะนำโดยผู้เชียวชาญด้านฮวงจุ้ย เนื่องจากให้คุณประโยชน์มากมาย ลักษณะปีเซี๊ยะที่พบ จะเห็นในท่านั่งตะครุบเหรียญจีน เพื่อแสดงถึงการรักษาทรัพย์สินและโชคลาภไว้ ช่วยให้มั่งคั่ง ร่ำรวย คนส่วนใหญ่นิยมปีเซียะมากกว่ากิเลน ปีเซียะนั้นซื่อสัตย์และเชื่อฟังเจ้าของมากๆ ซึ่งให้คุณ 6 อย่าง
1.) เป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สินและโชคลาภ
2.) เสริมฮวงจุ้ยและเป็นสิ่งมงคล
3.) ส่งเสริมความมั่งคั่งร่ำรวย
4.) ป้องกันสิ่งชั่วร้ายในบ้านเรือน
5.) ขจัดปีศาจและอุปสรรค์ ความยุ่งยากทั้งปวง
6.) นำโชคลาภให้ไหลมาเทมาคนจีนสมัยก่อนมักเขียนภาพหรือตั้งประติมากรรมรูปปีเซียะ ไว้ตามประตูบ้าน สุสานต่างๆทั่วไป บางทีก็ประดับไว้บนหลังคาพระราชวังต่างๆ เพื่อให้มันช่วยขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลายนั่นเองซึ่งมีพลังในการกำราบสิ่งชั่วร้าย
การเลือกปีเซี๊ยะที่มีพลังดูดทรัพย์
1.) การเลือกหินธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะนิยมใช้หินหยก: Agate หรือหินโมราเพราะถือว่าเป็นหินนำโชค ตามหลักฮวงจุ้ย ราคาไม่แพง จะแตกต่างตามขนาด และวัสดุที่ใช้ทำและฝีมือการแกะสลักหิน
2.) ควรเลือกปีเซียะที่มีความสง่างาม แกะได้คมชัด ไม่มีรอยร้าวหรือบิ่นแตก ถ้ามีรอยร้าวหรือตำหนิ ถือว่าพลังรั่วไหลหรือพลังตก ความสวยงามจะบอกถึงการดูดทรัพย์และมีพลัง
3.) ตามหลักฮวงจุ้ยจีนอธิบายจุดเด่นของปีเซียะ ไว้ว่าต้องมีลักษณะ หัวมังกร เท้าสิงโต ลำตัวกวาง ปีกนกอินทรีและหางแมว
อกใหญ่ผึ่งผาย ก้นใหญ่(เก็บทรัพย์ได้มาก) ปากต้องกว้าง แลบลิ้น
(อ้าปากดูดทรัพย์ ลิ้นตวัดเงินทอง) ไม่มีรูทวาร (กักทรัพย์) หน้าตาดุร้ายน่าเกรงขาม(ขับสิ่งอัปมงคลออกไป)
4.) ปีเซียะมีหลายรูปทรง มี 26 ชนิด เช่น เดี่ยว คู่ แม่ลูกอ่อน ไม่มีปีกแต่เพิ่มก้อนทอง หยู่อี่ เหรียญจักพรรดิ์ หรือสิ่งมงคลที่เพิ่มโชคลาภ บูชาที่บ้านหรือที่ทำงานหรือพกติดตัว
5.) ถ้าจะบูชาตามฮวงจุ้ยจีนโบราณ จะนำเหรียญจักรพรรดิ 5 แผ่นดิน ร้อยตามพระนามของแต่ละราชวงศ์คล้องเชือกสีแดง ห้อยไว้ที่คอปีเซียะหรือนำเหรียญใส่ในปากก็ได้ เหรียญ 5แผ่นดินถือว่าเป็นตัวแทนจักรพรรดิที่ทรงอำนาจบารมีมั่งคั่งที่สุดของแผ่นดินใหญ่ ต้องเลือกวางปีเซียะตำแหน่งที่หันออกหน้าบ้านหรือหน้าร้านหรือทิศทางเป็นมงคล
6.) ปีเซียะที่นำเข้ามา ถ้าไม่มั่นใจให้นำไปปลุกเสกที่วัดหรือหลวงพ่อที่นับถือ หรือทำพิธีบูชาเองที่บ้านก็ได้โดยจุดธูป 3 ดอกตั้งจิตอธิฐานและสวดมนต์ จากนั้นทำพิธีเปิดตาปีเซี๊ยะก่อน โดยการนำแก้วที่มีน้ำเย็นและน้ำร้อน อย่างละเท่ากันครึ่งๆ เป็นการปรับหยิน-หยาง ใช้สำลีชุบน้ำในแก้ว มาเช็ดที่ดวงตาทั้งสองข้าง จากนั้นถ้าตัวเล็กพอถือได้ให้ถือปีเซียะหรือกำไว้ในมือ วนทางซ้าย 3 ครั้ง ขวา 3 ครั้ง บนธูปที่จุดปักไว้ในกระถาง ถ้าตัวใหญ่ให้ใช้วิธีนำธูปมาวนรอบตัวปี่เซี๊ยะโดยวนซ้าย3ครั้ง แล้ววนขวา 3 ครั้ง แล้วปักธูปในกระถาง เป็นเสร็จพิธี
7.) เมื่อบูชาแล้วให้หมั่นลูบที่ส่วนหัว จะทำให้มีบารมี มีปัญญาผ่องใส ลูบที่ท้องจะเกิดความสมบูรณ์พูนสุข ลูบที่หลังทำให้มีโชควาสนา ลูบที่บั้นท้ายมีทรัพย์มาก
ปี่เซียะมีลักษณะเด่น 8 ประการ
- อ้าปากรับทรัพย์
2. หางยาวกวักโชคลาภ
3. ยกหัวข่มศัตรูคู่แข่ง
4. เท้าตะปบทรัพย์
5. ก้าวขาก้าวหน้า
6. ลิ้นยาวตวัดเงินทอง
7. องอาจหน้าเกรงขาม
8. ไม่มีรูทวารเงินทองไม่รั่วไหล เข้าอย่างเดียวไม่มีออกอานุภาพพิเศษ สัมผัสกลิ่นของโชคลาภได้รวดเร็ว ชัดเจนและแม่นยำ
ปี่เซียะที่ดี ต้องทำมาจากธาตุดิน โลหะ ดิน หิน แร่แต่หินจะดีที่สุดเพราะหินจะรับพลังธรรมชาติด้านบวกมาหลายร้อยล้านปีแล้ว เท่านั้น ลักษณะที่ต้องตามตำรา คือ ปากกว้าง หน้าดุ ก้นใหญ่ “ตัวผู้ก้าวเท้าซ้าย ตัวเมียก้าวเท้าขวา” ถ้าบูชาไว้ที่ร้านค้าหรือบ้านเรือน ควรวางเป็นคู่ ตามตำราระบุว่า “ตัวผู้รับทรัพย์ ตัวเมียเก็บทรัพย์”
วิธีบูชาและขอพร
จะให้ดีควรเป็นปี่เซียะที่เข้าพิธีปลุกเสกมาแล้ว เมื่อนำปี่เซียะเข้าบ้าน สำนักงานหรือโรงงาน ให้จุดธูป 5 ดอก บูชาพระ เทพเจ้า และเจ้าที่ ขออนุญาตนำปี่เซี๊ยะเข้ามาเพื่อช่วยเสริมสิริมงคล นำลาภผลเงินทอง และความมั่งมีศรีสุขมาสู่ตนเอง เวลาจะไปไหนก็ให้อธิษฐานขอพรจากปี่เซี๊ยะได้เลย โดยอธิษฐานขอให้ช่วยเป็นเรื่องๆไปในแต่ละวัน และสามารถอธิษฐานขอได้ทุกวัน (ถ้ากลัวเรื่องฟืนไฟ ไม่ต้องจุดธูปก็ได้แค่อธิษฐานก็พอ)
เคล็ดลับพิเศษ เมื่อได้มาครั้งแรก
คนจีนจะมีเคล็ดลับพิเศษ เมื่อได้ปี่เซียะมาแล้ว จะต้องทำพิธีเบิกเนตร วิธีการ คือ นำมาแช่น้ำเกลือ โดยน้ำจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ น้ำร้อนและน้ำเย็นเท่าๆกัน (หยินและหยาง) แช่ไว้ให้ท่วมตัว ทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง แล้วนำขึ้นมาใช้ผ้าสะอาดเช็ดที่ดวงตาทั้งสองข้างก่อน เป็นการเปิดตา (เบิกเนตร) โดยถือปี่เซียะหันหน้าเข้าหาผู้บูชา ให้ปี่เซียะมองเห็นว่า เราคือ คู่บุญ แล้วเช็ดให้แห้งทั้งตัว ยกเว้นปาก เพราะปากคือ สิ่งสำคัญ เป็นทางเข้าของทรัพย์เคล็ดลับ ตั้งให้เด่น สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ให้ตั้งเป็นคู่ โดยให้หันก้นชนกันเป็นรูปตัว V ทำเลที่ตั้งปี่เซียะคือ หันหน้าออกมองไปที่ประตูบ้านหรือประตูร้านค้า เพื่อไม่ให้สิ่งใดมากีดขวางหนทางในการดูดกินทรัพย์ อย่าลืมตั้งชื่อให้ปี่เซี้ยะด้วยครับเวลาที่เรียกใช้จะได้เรียกถูกครับ สามารถมีได้หลายตัวยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งช่วยเก็บเงินโชคลาภได้เยอะขึ้น
การแขวนปี่เซียะขนาดพกพา
1. จะแขวนกี่ตัวก็ได้ แต่ไม่ควรแขวนรวมกับสร้อยพระเครื่อง หากจะแขวนก็ต้องใช้สายสร้อยคนละเส้นกัน โดยให้อยู่ต่ำกว่าพระ
2. เพื่อรับพลังธาตุจากปี่เซียะ ปี่เซียะที่ทำจากหินหรือหยก ไม่ควรเลี่ยมปิดทั้งหมด (เลี่ยมเฉพาะขอบ ส่วนตรงกลางให้เปิดโล่ง)
3. ควรห้อยให้ตัวปี่เซียะได้สัมผัสถูกเนื้อตัวของผู้สวมใส่ เหมือนหลักการห้อยหยกโดยทั่วไป ทั้งนี้เพื่อรับพลังแห่งโชคลาภ ยกเว้นปี่เซียะเนื้อโลหะ ถ้าสัมผัสถูกตัวมากๆ อาจระคายเคืองผิวหรือผิวเดิมของปี่เซียะอาจสึกหรอได้ ทำให้ไม่คมชัดสวยงาม แบบนี้ก็ให้เลี่ยมปิดให้หมด
4. อาจแขวนหรือกลัดไว้ที่กระเป๋าเสื้อหรือจะห้อยไว้ที่เอวก็ได้ แต่ห้ามต่ำกว่าเอว เช่น ห้ามใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าสตางค์ที่เหน็บไว้ตรงกระเป๋ากางเกง ยกเว้นให้ใส่ไว้ในกระเป๋าถือได้
ข้อห้าม
ปี่เซียะนั้นให้คุณกับผู้ศรัทธาเชื่อถือ โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง บูชาได้ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย สำคัญมากตรงที่เป็นสัตว์ที่เสริมบารมีให้กับทุกราศี ไม่มีการชง (ขัดแย้ง ต้าน) กัน เหมาะที่สุดกับบรรดานักเสี่ยงทั้งหลาย มีข้อห้ามที่ควรรู้ คือ1. ปี่เซียะเป็นสัตว์มงคลเฉพาะบุคคล เมื่อบูชาแล้วก็เป็นของคนๆนั้น (ของใครของมัน) ห้ามยกให้ใครเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับว่าท่านยกโชคลาภของท่านให้คนอื่น
2. ระวังอย่าให้บุคคลอื่นมาจับต้องลูบคลำปี่เซียะของท่าน เพราะลาภผลที่ควรจะได้แบบเต็มๆ ต้องถูกแบ่งออกไปให้กับบุคคลนั้นๆ
3. ห้ามเดินข้ามหรือวางไว้ในที่ต่ำหรือลอดราวตากผ้า ขณะที่ห้อยปี่เซียะอยู่
4. ห้ามพกพาปี่เซียะไปงานศพ เพราะอาจซึมซับพลังงานไม่ดีเข้ามา
5. สำหรับนักเสี่ยงโชค เมื่อเดินเข้าไปในบ่อนกาสิโน หากเห็นปี่เซียะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ให้ถอนตัวกลับทันที เพราะโอกาสเสียมีมากกว่าได้
6. ก่อนหรือหลังการเสี่ยงโชคใดๆ ถ้ามีอาการเครียด หงุดหงิด ไม่สบาย ปวดศีรษะ ปวดอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง ให้หยุดเสี่ยงโชคทันที เนื่องจากวันนั้นท่านโชคไม่ดีแล้ว
7.ห้ามเหยียบปี่เซี้ยะหรือทุบให้แตกเพราะสิ่งที่ไม่ดีที่ได้ดูดเก็บไว้จะตีกลับมาที่เจ้าของ
8.ถ้าปี่เซียะแตกหักไม่ควรใช้ต่อให้หาคู่ใหม่ไปเปลี่ยนให้นำคู่เก่าไปทิ้งที่ในแม่น้ำ บึง คลองแล้วบอกให้สิ่งที่ไม่ดีโชคร้ายไปกับปี่เซี่ยะด้วย หรือนำไปให้ช่างที่มีฝีมือช่วยซ่อมปี่เซียะให้ดีและสวยมีพลังด้านที่ดีอย่างเดิมได้และราคาประหยัดด้วยครับ
การดูแลเอาใจใส่ปี่เซียะ
ปี่เซียะเป็นสัตว์มงคลกึ่งเทพ เจ้าของควรเอาใจใส่ด้วยวิธีชำระล้าง หรือาบน้ำทำความสะอาด ปะพรมด้วยของหอม พูดคุยด้วยบ่อยๆ ลูบหัวและลูบบั้นท้ายด้วยความศรัทธา พร้อมอธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนาจากปี่เซียะทุกวัน จะดีกว่าตั้งบูชาไว้เฉยๆ
ลูบท้อง อานิสงส์ทางสมบูรณ์พูนสุข
ลูบหัว ทำให้บารมีดี ปัญญาแจ่มใส
ลูบหลัง ทำให้มีโชควาสนา
ข้อห้าม ห้ามลูบปาก เพราะจะทำให้เก็บทรัพย์ไม่อยู่ และมีผลเสียต่อตัวปี่เซี๊ยะจะไม่ยอมกินโชคลาภเงินทอง (ถ้าท่านไม่เชื่อ จะลองดูก็ได้)
ถ้าขอพรได้สมใจแล้วได้ควรเลี้ยงปี่เซียะด้วยผลไม้ เช่น ส้ม แอปเปิ้ล และน้ำแดง ส้ม เขียว แล้วเรียกชื่อปี่เซียะให้มากินเป็นรางวัลเหมือนสัตว์เลี้ยงเลย
แต่ห้ามเลี้ยงของกินก่อนขอพร เพราะปี่เซียะจะไม่ทำงานนอนอย่างเดียวขี้เกียจไม่ทำงานเลย
มงคลคาถาปี่เซี๊ยะ
อุ อา กะ สะ อุ อา กะ สะ หรือ อุ อา กะ สะ ปี่เซี๊ยะ อานุภาโว เมตตาจิต ประสิทธิเม
คำแปล
“ขออานุภาพปี่เซียะผู้มีความขยันมั่นเพียร รู้จักเก็บออม มีมิตรดีและใช่จ่ายไม่ฟุ่มเฟือยจงมีเมตตา
จิตให้ข้าพเจ้าประสบแต่ความสุขความเจริญ”
แล้วอธิฐานบอกกล่าวตามปรารถนา
( ท่องตอนเติมน้ำ หรือลูบลำตัว ถ้ายังจำไม่ได้ให้พิมพ์หรือเขียนไว้อ่านได้)
เพิ่มเติม
การจัดวางปีเซี๊ยะ
- ทิศที่ดีที่สุดในการตั้งไว้ในบ้านคือ ทิศตะวันออก ให้วางต่ำกว่าระดับสายตา ณ จุดที่สูงสุดในบ้าน
- ถ้าอยากมีโชคลาภ ต้องการป้องกันสิ่งชั่วร้าย ควรวางไว้บนโต๊ะ ห้องรับแขก หรือจุดสำคัญของบ้าน จะช่วยให้มีอำนาจในการบริหารจัดการ ให้วางไว้ตั้งโต๊ะทำงานโดยวางไว้ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
- สำหรับคนเดินทางไกลบ่อยๆ ให้ตั้งหันหน้าออกที่หน้าประตูหลัก (หรือตั้งไว้ในรถ 1 ตัว) เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและอุบัติเหตุ และเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นประสบความสำเร็จ ในการเดินทางธุรกิจ และสามารถแยกแยะคนชั่วร้าย ป้องกันไม่ให้เข้ามาทำอันตรายได้
ของบูชาปี่เซี๊ยะแบบโบราณ
- ขนมจันอับ ชาวจีนเรียก โหงวเส็กทึ้งแต่เหลียง แปลว่าขนม 5 สี (แทนเบญจธาตุ)
2.ผลไม้มงคล อาทิ
– ส้ม ชาวจีนเรียกว่า กา หรือไต้กิก หมายถึง เป็นมงคลยิ่ง โชคดี
– องุ่น ชาวจีนเรียกว่า ผู่ท้อ หมายถึง งอกงาม เจริญ
– สัปปะรด ชาวจีนเรียกว่า อั่งไล้ หมายถึง มีโชคมาหา
– กล้วย ชาวจีนเรียกว่า เฮียงเจีย หมายถึง มีลูกหลานสีบสกุล
– ลูกท้อ ชาวจีนเรียกว่า ท้อ หมายถึง ผลไม้สวรรค์ อายุยืน
– ทับทิม ชาวจีนเรียกว่า เสียะลิ้ว หมายถึง ผลไม้สวรรค์
มีความอุดมสมบูรณ์.
ขอบคุณ http://maithongkk.lnwshop.com/article/10/%E0..
https://www.google.com/search?newwindow=1&safe=..
https://www.ubmthai.com