เชื่อไหมว่า..บางครั้งความร่ำรวย ก็ไม่สามารถซื้อความสุขที่ฝังอยู่ใต้สำนึกของบางคนได้ ..
ลูกสาว สตีฟ จ็อบส์ เปิดเผยความจริงอีกด้านของอัจฉริยะแห่งบริษัท แอปเปิล ตอนแรกไม่รับผิดชอบ อ้างว่าเป็นหมันและไม่ใช่พ่อ แถมยังใจร้ายเย็นชา ก่อนตายยังพูดใส่หน้าว่าลูกกลิ่นเหมือนส้วม..
3 กรกฎาคม 2561 เว็บไซต์เดอะเทเลกราฟ รายงานว่า ลิซ่า เบรนแนน จ็อบส์ (Lisa Brennan-Jobs) นักเขียนชาวอเมริกัน วัย 40 ปี ลูกสาวของ สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) นักธุรกิจคนดังผู้ปฏิวัติวงการไอทีและผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล (Apple Inc.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงความทรงจำอันเลวร้าย และความสัมพันธ์อันขมขื่นระหว่างเธอกับพ่อ ชีวิตในวัยเด็กของเธอไม่ได้มีความสุข มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอไม่ได้เคยได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อบังเกิดเกล้าคนนี้ เขาไม่ยอมรับว่าเธอเป็นลูกสาวของเขา แม้แต่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต สตีฟก็ยังคงพูดจาเลวร้ายกับลูกสาวคนนี้ จนกระทั่งสิ้นลมหายใจ ..
ในบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งจากนิตยสาร Vanity Fair นั้น ลิซ่าเปิดใจเล่าว่าพ่อของเธอไม่ได้เป็นคนเพอร์เฟคต์เหมือนภาพลักษณ์ที่หลาย ๆ คนมองเห็น โดย คริสแอนน์ เบรนแนน แม่ของลิซ่า ได้เริ่มคบหาดูใจกับสตีฟในปี 2515 และเลิกรากันไปในปี 2520 จบความสัมพันธ์ไว้ที่ 5 ปี เมื่อคริสแอนน์ตั้งครรภ์และคลอด ลิซ่า ในปี 2521 สตีฟปฏิเสธการรับผิดชอบและบอกคนอื่น ๆ เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขา คริสแอนน์จึงต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง เธอต้องทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟและแม่บ้านทำความสะอาด เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูตัวเองกับลูก โดยสตีฟไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด..
..ลิซ่าเปิดเผยว่า สมัยที่เธอยังเด็ก สตีฟจะแวะมาเยี่ยมที่บ้านเดือนละครั้ง โดยตอนที่ลิซ่าอายุ 7 ขวบ เธอได้ยินแม่คุยกับเพื่อนว่าพ่อเพิ่งซื้อรถปอร์เช่คันใหม่ เพราะรถคันเก่ามีรอยขูดขีด เมื่อพ่อเดินทางมาเยี่ยมตามปกติ เธอจึงเอ่ยปากถามพ่อว่า “ถ้าไม่ใช่รถคันนี้แล้ว พ่อยกให้หนูได้ไหม” ซึ่งคำตอบที่ได้รับนั้นแสนจะเย็นชา และทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
“พ่อบอกว่า ‘ไม่มีวัน’ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นโหดร้าย และมันทำให้ฉันรู้สึกผิดมากที่ถามแบบนั้นออกไป ตอนนั้นฉันเข้าใจว่าเรื่องที่ได้ยินมาอาจจะไม่ใช่ความจริง พ่ออาจจะไม่ได้ซื้อรถใหม่จริง ๆ ก็ได้ เพราะฉันรู้ว่าตอนนั้นเขาไม่ได้มีเงินเยอะ การมีรถปอร์เช่หรู ๆ สักคัน มันดูเป็นเรื่องที่เพ้อฝันมาก ๆ”
แม้ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตสตีฟ ความสัมพันธ์ที่แตกร้าวระหว่างเขาก็ลูกสาว ก็ไม่ได้รับการเยียวยา และมันยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม โดยในช่วงที่สตีฟล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน ลิซ่าจะเดินทางไปเยี่ยมเขาที่บ้านพักหลังโตสไตล์ทิวดอร์ ในปาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา แม้จะรู้ว่าพ่อไม่ค่อยชอบหน้าเธอ แต่เธอก็ไปหาเขาเป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่ง ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ก่อนที่สตีฟจะเสียชีวิตในเดือนตุลาคม 2554 ลิซ่าแวะไปเยี่ยมพ่อเหมือนเคย ก่อนจะกลับ เธอเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ เธอเห็นสเปรย์น้ำหอมกลิ่นกุหลาบวางอยู่ จึงหยิบมาฉีดใส่ตัวเอง และเดินกลับไปหาพ่อ เพื่อบอกลา แต่กลิ่นกุหลาบกลับจางลงอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นกลิ่นเหม็นตุ ๆ
“ตอนที่ฉันเดินเข้าไปในห้องพ่อ เขากำลังนอนขดอยู่ และเขาก็ขยับลงมานั่งห้อยขา ฉันเดินเข้าไปกอดพ่อ รู้สึกว่าพ่อผอมลงมาก จับไปเจอกระดูกสันหลังและซี่โครง และฉันก็ได้กลิ่นยาจากตัวพ่อ ฉันบอกเขาว่า ‘เดี๋ยวหนูกลับมาเยี่ยมอีกนะ’ และเดินจากไป ตอนนั้นพ่อเรียกฉัน พอฉันหันกลับไปหา เขาก็บอกว่า ‘แกนี่กลิ่นยังกะส้วม’ ” ลิซ่าเล่า
เรื่องราวระหว่าง ลิซ่า กับ สตีฟ จ็อบส์ ยังมีอีกมากมาย ซึ่งเธอได้นำความทรงจำเหล่านั้นมาร้อยเรียงลงใน Small Fry หนังสือเล่มใหม่ของเธอ ที่กำลังจะวางแผงในเร็ว ๆ นี้.
…เราโชคดีเพียงใด ที่มีพ่อ-แม่ ที่รักเรา เมตตาเรา ..เท่านี้ก็มีความสุขแล้วล่ะนะ..