สถานการณ์และข้อเท็จจริงล่าสุดเขื่อนลาวแตก!! เป็นเขื่อนดินย่อยของเขื่อนเซเปียน..
เขื่อนที่แตกในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ที่มีบริษัทจากลาว ไทย และเกาหลีใต้ เป็นผู้ร่วมทุน โดยเขื่อนดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และทาง SK Engineering & Construction บริษัทของเกาหลีใต้ที่ร่วมทุนในโครงการนี้ ก็ได้ออกมายอมรับว่า ตรวจพบรอยร้าวที่เขื่อนครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22 กรกฎาคม)
รายงานเผยว่า หลังจากที่พบรอยร้าวบริเวณสันเขื่อนดินย่อย ส่วน D ก็ได้มีการแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ รวมถึงแจ้งเตือนให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เขื่อนให้เริ่มอพยพออกไป พร้อมกับส่งทีมงานไปซ่อมแซมสันเขื่อนนี้ แต่สุดท้ายความเสียหายที่เขื่อนกลับหนักขึ้น จนสันเขื่อนแตก ทำให้น้ำไหลท่วมเข้าหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงถึง 7 หมู่บ้านด้วยกัน
ทางด้าน บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นในโครงการดังกล่าว ชี้แจงว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำปริมาณมากไหลเข้ามาในพื้นที่เก็บน้ำของโครงการ จนทำให้สันเขื่อนทรุดตัวและเกิดรอยร้าวขึ้น จากนั้นได้มีน้ำไหลออกไปสู่พื้นที่ท้ายน้ำ และลงสู่ลำน้ำเซเปียนที่อยู่ห่างจากเขื่อนออกไปราว 5 กิโลเมตร
เฟซบุ๊ก Attapeu Today สื่อท้องถิ่นของ สปป.ลาว ได้โพสต์ภาพมุมสูงแสดงให้เห็นมวลน้ำที่ท่วมเมืองสะหนามไซ จากเหตุการณ์เขื่อนแตก โดยภาพเผยให้เห็นน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง เห็นเพียงต้นไม้ที่โผล่พ้นน้ำเท่านั้น ซึ่งตามรายงานระบุว่า จากเหตุการณ์เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 รายแล้ว และสูญหายอีกนับร้อยราย อีกกว่า 1,300 ครอบครัว ไร้ที่อยู่อาศัย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก สปป.ลาว พร้อมทั้งระบุว่า ประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับ สปป.ลาว พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เบื้องต้น มีอาสาสมัครได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยแล้ว และทางรัฐบาลไทยเองยินดีสนับสนุนทั้งกู้ภัย แพทย์ พยาบาล ทหาร เจ้าหน้าที่ ฯลฯ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่าง ๆ หากได้รับการประสานงานจากทางการของ สปป.ลาว
ข่าวเวิร์คพอยท์ เผยรายละเอียดว่า เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เป็นเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ ตั้งอยู่ในเขตที่ราบสูงโบโวเลน รอยต่อเมืองปากซอง แขวงจำปาสัก กับเมืองสะหนามไซ เริ่มก่อสร้างมาเมื่อปี 2556 กำหนดแล้วเสร็จต้นปี 2562 มีบริษัทต่างประเทศร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลลาว จำนวน 4 บริษัท คือ
1. บริษัท SK Engineering and Construction จำกัด ถือหุ้น 26%
2. บริษัท Korea Western Power จำกัด ถือหุ้น 25%
3. บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 25%