เตือนภัย » หลอกขายคอนโดฯภูเก็ต พบเหยื่อไทย-เทศ เสียหายกว่าพันล้าน

หลอกขายคอนโดฯภูเก็ต พบเหยื่อไทย-เทศ เสียหายกว่าพันล้าน

4 พฤษภาคม 2018
1928   0

 

ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตามหมายจับฉ้อโกง หลังเหยื่อ 40 ชีวิต แจ้งความจับ ปมหลอกขายคอนโดหรูหลายโครงการ ชี้มูลค่าความเสียหายกว่า 1 พันล้านบาท

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 WorkpointNews รายงานว่า พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ปฏิบัติหน้าที่ควบคุม กำกับชุดปฏิบัติการศูนย์ป้องกันและปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการจับกุมตัว นายสาวิตร เกตุโรจน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชน หลังเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่สนามบินภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากประชาชนประมาณ 40 คน ว่า ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงด้วยการโฆษณาเสนอขายคอนโดและห้องชุด ในโครงการ ดิ เอมเมอรัลด์ เนอร์วานา คอนโดมิเนียม ป่าตอง กะหลิม ซึ่งมีการวางเงินจองและผ่อนชำระค่างวด เป็นจำนวนเงินรวม 2,857,551 บาท (ตรวจสอบมูลค่าความเสียหายที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้องในคดีอื่นเป็นเงิน 127,515,345 บาท) แต่เมื่อถึงวันโอนกรรมสิทธิ์เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558 กลับไม่พบการก่อสร้างโครงการแต่อย่างใด และเมื่อทวงถาม กลับไม่ได้รับเงินคืนตามจำนวน

นอกจากนี้ ยังสืบทราบมาว่า หลังดำเนินการแจ้งความกลับยังพบว่าผู้ต้องหายังมีการเสนอขายคอนโดและห้องชุดอยู่ทั้งทางเว็บไซต์และโฆษณา ซึ่งพบว่ายังมีอีก 4 โครงการที่อาจเข้าข่ายความผิดลักษณะดังกล่าว คือ โครงการ ดิ เอมเมอรัลด์ ซิตี้ไลฟ์ คอนโด ป่าตอง โดย บริษัท เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด, ดิ เอมเมอรัลด์ อ่าวนาง คอนโด โดย บริษัท เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด, ดิ เอมเมอรัลด์ เทอเรซ ป่าตอง โดย บริษัท ภูเก็ตฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ ดิ เอมเมอรัลด์-เซ็นทรัล โดย บริษัท แคปปิตอล เรียลเอสเตท จำกัด

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ นายสาวิตร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ทางบริษัทมีความขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงทำให้ไม่สามารถก่อสร้างคอนโดมิเนียมโครงการดังกล่าวได้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า ผู้เสียหายทั้งหมดเชื่อว่าน่าจะมีประมาณ 300 คน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งมูลค่าความเสียหายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการดำเนินการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป โดยกรณีผู้เสียหายชาวต่างชาติ ทางเจ้าหน้าที่จะมีการแจ้งไปยังสถานทูตในแต่ละประเทศ ให้แจ้งข่าวไปยังประชาชนของตนเองทราบแล้ว

ที่มา-ข่าวเวิร์คพ้อยท์