1. วันตรุษจีน 2561 ตรงกับวันที่เท่าไร หยุดกี่วัน ?
..วันตรุษจีน 2561 ตรงกับวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ ซึ่งวันตรุษจีนไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ แต่ตามบริษัทห้างร้านของคนจีนอาจจะอนุญาตให้ลูกจ้างได้หยุดพักผ่อนอยู่กับบ้าน ถือเป็นวันหยุดพักผ่อนพิเศษสำหรับคนจีน ซึ่งก็แล้วแต่ว่าบริษัทไหน หรือร้านไหนจะกำหนดให้หยุดได้กี่วัน
2. วันตรุษจีน 2561 วันจ่าย วันไหน ?
ตามธรรมเนียมของคนจีนแล้ว วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก จะเป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปหาซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ มาเตรียมพร้อมไว้ ก่อนที่ร้านค้าต่าง ๆ จะหยุดยาวในช่วงวันตรุษจีน ซึ่งจะตรงกับวันก่อนวันสิ้นปี โดยในปี 2561 วันจ่าย ก็คือวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์
3. ตรุษจีน 2561 วันไหว้ วันไหน ?
วันไหว้ของเทศกาลตรุษจีนก็คือ “วันสิ้นปี” ซึ่งจะเป็นวันที่มีการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ ฯลฯ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โดยในปี 2561 วันไหว้ตรุษจีนก็คือ วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์
4. วันตรุษจีน 2561 วันเที่ยว วันไหน ?
วันเที่ยวสำหรับชาวจีนก็คือ “วันปีใหม่” หรือ “วันตรุษจีน” ซึ่งปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ และเป็น “วันถือ” ด้วย โดยในวันนี้ชาวจีนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม พากันออกไปท่องเที่ยว และไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ที่เคารพรัก ชาวจีนจะถือว่าวันนี้เป็นวันแห่งสิริมงคล และงดทำบาปทั้งปวง
——–
5. ตรุษจีน 2561 ควรไหว้อะไร ของไหว้วันตรุษจีน มีอะไรบ้าง ?
การเลือกอาหารไหว้ตรุษจีนนั้น ชาวจีนจะเลือกสรรอาหารที่มีความหมายมงคล ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ของไหว้วันตรุษจีน มักจะประกอบด้วย..
– ไก่ หมายถึง ความสง่างาม ยศ และความขยันขันแข็ง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้องเป็นไก่เต็มตัว หมายถึง มีหัว ตัว ขา ปีก มีความหมายถึง ความสมบูรณ์
– เป็ด หมายถึง สิ่งบริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย
– ปลา หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์
– หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้
– ปลาหมึก หมายถึง เหลือกิน เหลือใช้ (เหมือนปลา)
– บะหมี่ยาว หรือหมี่ซั่ว หรือ ฉางโซ่วเมี่ยน ตามชื่อหมายถึง อายุยืนยาว
– เม็ดบัว หมายถึง การมีบุตรชายจำนวนมาก
– ถั่วตัด หมายถึง แท่งเงิน
– สาหร่ายทะเลสีดำ หมายถึง ความมั่งคั่งร่ำรวย
– หน่อไม้ หมายถึง การอวยพรให้ร่ำรวยผาสุก
– กล้วย หมายถึง กวักโชคลาภเข้ามา และขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
– แอปเปิล หมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ
– สาลี่ หมายถึง โชคลาภมาถึง (ควรระวังไม่นิยมไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ)
– ส้มสีทอง หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล
– องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน
อย่างไรก็ตามที่ต้องระวังก็คือ “เต้าหู้ขาว” ซึ่งแม้จะเป็นอาหารที่ชาวจีนนิยมรับประทาน แต่ชาวจีนจะไม่นำเต้าหู้ขาวมาใช้เป็นของไหว้ตรุษจีนเด็ดขาด เพราะสีขาวเป็นสีสำหรับงานโศกเศร้า ไม่เหมาะกับวันตรุษจีนซึ่งเป็นวันมงคล
นอกจากอาหารคาว และผลไม้แล้ว ชาวจีนก็ยังนิยมเลือกขนมหวานมาไหว้ตรุษจีนด้วย โดยขนมหวานที่เราพบเห็นได้บ่อยในการไหว้ตรุษจีน ก็คือ
– ขนมเข่ง คือ ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต ขนมเข่งที่ใส่ในชะลอม หมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์
– ขนมเทียน คือ เป็นขนมที่ปรับปรุงขึ้นจากชาวจีนโพ้นแผ่นดินดัดแปลงมาจากขนมท้องถิ่นของไทย จากขนมใส่ไส้เปลี่ยนจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิมาเป็นแป้งข้าวเหนียวแทน มีความหมายคือ หวานชื่น ราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลมมีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์
– ขนมไข่ คือ ความเจริญเติบโต
– ขนมถ้วยฟู คือ ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง เฟื่องฟู
– ขนมสาลี่ คือ รุ่งเรือง เฟื่องฟู
– ซาลาเปา หรือ หมั่นโถว คือ ไหว้เพื่อให้เปาไช้ แปลว่าห่อโชค
– จันอับ (จั๋งอั๊บ) หมายถึง ปิ่นโต หมายถึงความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป
6. ข้อห้ามวันตรุษจีน วันตรุษจีนห้ามทำอะไรบ้าง ?
ชาวไทยเชื้อสายจีนในหลาย ๆ บ้านที่เคร่งครัดธรรมเนียมปฏิบัติมาก ๆ จะยึดคติความเชื่อบางอย่างที่จะไม่ทำกันในวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน เช่น ..
– ไม่ทำงานบ้าน ไม่จับไม้กวาด ไม่ทำความสะอาด เช่น การซักล้าง หรือการกวาดบ้านปัดฝุ่น เพราะเชื่อว่าการปัดกวาด ซักล้างนี้เป็นการขับไล่ความโชคดีออกไป ดังนั้น คนจีนมักจะทำความสะอาดบ้านตั้งแต่ก่อนที่วันขึ้นปีใหม่จะมาถึง
– ไม่สระผม คนจีนถือว่าการสระผมเป็นการชะล้างความโชคดีที่จะมาถึงในช่วงวันขึ้นปีใหม่ จึงจะไม่สระผมในวันเริ่มต้นและวันสุดท้ายของวันขึ้นปีใหม่
– ไม่ใช้ของมีคม ไม่ว่าจะเป็นมีด, กรรไกร, ที่ตัดเล็บ เพราะเหมือนกับว่าเป็นการตัดสิ่งที่ดี หรืออนาคตที่ดีที่จะนำมาในวันขึ้นปีใหม่
– หลีกเลี่ยงการโต้เถียง ไม่พูดคำที่มีความหมายในทางลบ เช่น คำที่มีความหมายไม่ดี คำที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยหรือความตาย เพราะถือว่าไม่เป็นสิริมงคล นอกจากนี้ชาวจีนยังหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับงานศพ และการฆ่าสัตว์ปีกฯ
– ห้ามซุ่มซ่าม ชาวจีนถือว่าการเดินสะดุด หรือทำสิ่งของตกแตกในช่วงวันขึ้นปีใหม่ หมายถึงการงานสะดุด และนำความโชคไม่ดีเข้ามาในอนาคต.
รายละเอียดข้อห้าม
1. ห้ามทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า การทำความสะอาดบ้าน และทิ้งขยะในวันตรุษจีน ถือเป็นการกวาดเอาโชคลาภ เงินทอง ออกไปจากบ้านนั้นเอง แต่จะไปทำความสะอาดกันหนึ่งวันก่อนวันตรุษจีน เพื่อให้บ้านสะอาดรับปีใหม่ และเพื่อใช้ในการต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมเยียน
2. ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน เพราะฉะนั้นการซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
3. ห้ามใส่ชุดขาวดำ ในวันตรุษจีน
เนื่องจากเสื้อผ้าสีขาวดำ นั้นเป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้น การสวมเสื้อผ้าสีขาวดำในวันนี้จึงหมายถึง ลางร้าย ในวันตรุษจีน ทุกคนจึงมักใส่เสื้อผ้าสีสดใสโดยเฉพาะสีแดง ที่เป็นสีแห่งความโชคดี
4. ห้ามตัดผม ห้ามสระผม ในวันตรุษจีน
คำว่า ผม ในภาษาจีนนั้นเป็นคำพ้องเสียง และคำพ้องรูป ที่มีความหมายว่า มั่งคั่ง ดังนั้นแล้วการสระผมหรือการตัดผมในวันตรุษจีน จึงเปรียบเสมือนการนำความมั่งคั่งออกไป ด้วยเหตุนี้เองชาวจีนจึงไม่นิยมสระหรือตัดผมในวันนี้ หรือบางคนก็จะไม่สระผม 3 วันหลังจากวันตรุษจีน
5. ห้ามพูดหยาบ ห้ามทะเลาะ ในวันตรุษจีน
ในวันตรุษจีน ชาวจีนจะงดพูดคำหยาบ และสิ่งที่ไม่ดี รวมไปถึงการพูดถึงความตายหรือผีสาง เพราะเชื่อว่า การพูดสิ่งไม่ดีในวันนี้ จะนำพาความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี
6. ห้ามทำของแตก หัก ในวันตรุษจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า การทำสิ่งของแตก ไม่ว่าจะเป็น แก้วตก หรือจานแตก ในวันตรุษจีนนั้น หมายถึง เป็นลางร้ายว่าคนในครอบครัวจะแตกแยก หรืออาจมีคนในครอบครัวเสียชีวิต แต่หากเป็นเหตุสุดวิสัยทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ
ก็มีวิธีแก้เคล็ดโดยการพูดว่า “luo di kai hua” ที่แปลว่า ดอกไม้จงเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
7. ห้ามยืมเงิน ห้ามให้ใครยืมเงิน ในวันตรุษจีน
ในที่นี้อาจรวมไปถึงการให้ยืมสื่งของอื่นๆ นอกจากเงินด้วย เพราะชาวจีนเชื่อกันว่า การให้ยืมเงินในวันนี้จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด รวมไปถึงถ้าติดเงินใครก็ควรจะคืนให้เรียบร้อยก่อนถึงวันตรุษจีนด้วย เพราะเชื่อกันว่า หากติดเงินใครในวันตรุษจีนแล้ว คนๆนั้นจะมีหนี้สินติดตัวไปตลอดทั้งปี
8. ห้ามใช้ของมีคม ในวันตรุษจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า หากใช้ของมีคมตัดสิ่งของในวันนี้นั้น จะเป็นการตัดโชคดีไปด้วย ดังนั้น ของมีคมจึงเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับวันนี้
9. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ ในวันตรุษจีน
รองเท้าในภาษาจีน ออกเสียงว่า Hai ซึ่งมีเสียงคล้ายการถอนหายใจ ชาวจีนจึงไม่นิยมซื้อรองเท้าในวันนี้ เพราะจะเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร
10.ห้ามกินโจ๊ก ห้ามกินเนื้อสัตว์ ในวันตรุษจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า คนจนคือคนที่กินโจ๊กในยามเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าวันตรุษจีน เหมือนเป็นการขัดขวางไม่ให้ตัวเองร่ำรวย และทำตัวเหมือนคนจน ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงการไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย เนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นเป็นมังสวิรัติ
11. ห้ามร้องไห้ ห้ามเสียใจ ในวันตรุษจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า การร้องไห้ในวันปีใหม่ จะทำให้พบเจอกับเรื่องไม่ดี และอาจเป็นเหตุทำให้ต้องเสียใจไปตลอดทั้งปี แม้แต่เด็กเล็ก ไม่ว่าจะซนแค่ไหน ผู้ปกครองก็จะไม่ตี เพื่อไม่ให้เด็กร้องไห้ในวันนี้
12. ห้ามไปห้องนอนของผู้อื่น ในวันตรุษจีน
ไม่ว่าเจ้าของบ้านจะเจ็บป่วยขนาดไหน ก็ไม่ควรให้แขกเข้ามาเยี่ยมในห้องนอน ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก เพราะชาวจีนมีความเชื่อกันว่าการเข้าไปหาใครในห้องนอนนั้นถือว่าเป็นโชคร้าย
7. ตัวอย่าง คําอวยพรตรุษจีน มีอะไรบ้าง ?
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้เราคงได้ยินคำอวยพรที่ว่า “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ..นอกจากนั้นยังมี..
– ซินเหนียนไคว่เล่อ … ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่
– กงเฮ่อซินเหนียน … สุขสันต์วันปีใหม่
– ต้าจี๋ต้าลี่ … ค้าขายได้กำไร
– เจาไฉจิ้นเป่า … เงินทองไหลมาเทมา ทรัพย์สมบัติไหลเข้าบ้าน
– จินอวี้หม่านถัง … ร่ำรวยเงินทอง ทองหยกเต็มบ้าน
– ไฉหยวนกว่างจิ้น … เงินทองไหลมาเทมา
– เหนียนเหนียนโหย่วอวี๋ … เหลือกินเหลือใช้ทุกปี
– ฝูโซ่วว่านว่านเหนียน … อายุยืนหมื่น ๆ ปี
– หลงหม่าจินเสิน … สุขภาพแข็งแรง
– ห่าวยวิ่นเหนียนเหนียน …โชคดีตลอดไป.
สิ่งที่ควรทำวันตรุษจีน
รู้กันอยู่แล้วว่าเทศกาลตรุษจีนก็คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนทั่วโลกนั่นเอง ซึ่งหากเป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่สากลอย่างช่วงวันที่ 1 มกราคม หลายคนก็จะพากันไปเดินทางท่องเที่ยว ไปทำบุญไหว้พระ สวดมนต์ข้ามปี พบปะญาติมิตรพี่น้อง เลี้ยงฉลอง เพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับศักราชใหม่ที่กำลังจะมาถึง ไม่ต่างจากชาวจีน ที่พวกเขาเองก็มีการถือเคล็ดความเชื่อแบบนี้ในช่วงวันตรุษจีนเช่นกัน ..
1. ไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้ผีไม่มีญาติ
คนจีนทุกบ้านจะต้องไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ เพราะเป็นธรรมเนียมที่ลูกหลานชาวจีนสืบทอดต่อกันมานานแล้ว โดยเชื่อว่า การไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ จะนำความสุขมาสู่ครอบครัวนั้น โดยในช่วงเช้า ชาวจีนจะไหว้เจ้าที่ และบรรพบุรุษ จากนั้นในช่วงเที่ยงจะไหว้ผีไม่มีญาติ และจุดขี้ไต้ไว้ 2 ชิ้น เมื่อไหว้ผีไม่มีญาติเสร็จแล้ว จะจุดประทัด และโปรยข้าวสารผสมเกลือ เพื่อเป็นการขับไล่สิ่งไม่ดีให้หมดไป
อักษรจีนตัวย่อ: | 财神,财神爷 |
อักษรจีนตัวเต็ม: | 財神,財神爺 |
พินอิน: | Cái-shén,Cái-shén-yé |
สำเนียงแต้จิ๋ว: | ไช้ซิงเอี๊ย |
สำเนียงฮกเกี้ยน: | จ๋ายสิน,จ๋ายสินเอี๊ยะ |
2. ทำพิธีรับไฉ่ซิงเอี้ย
เชื่อว่าไฉซิ้งเอี้ย จะเสด็จมายังโลกมนุษย์เพียงปีละครั้ง คือ ในวันตรุษจีน ดังนั้น ชาวจีนตั้งแต่โบราณเมื่อเข้าสู่วันตรุษจีน (นับตั้งแต่ 0.00 น.) จะทำการตั้งโต๊ะบูชาไฉซิ้งเอี้ย โดยการหันหน้าไปทิศต่าง ๆ ที่เชื่อว่าไฉซิ้งเอี้ยจะเสด็จลงมา ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี โดยเวลาที่จะทำการบูชา คือ 23.00-01.00 น. ของวันตรุษจีน ซึ่งของที่ทำการบูชาใช้ของหวาน เช่น ผลไม้, อาหารเจ, บัวลอย, สาคู หรือของรับประทานต่าง ๆ ที่มีสีสันสดใส แต่ไม่ใ้ช้ของคาวหรือเนื้อสัตว์ พร้อมกับนำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเงินทอง เช่น สมุดบัญชีธนาคาร, เช็ค หรือกระเป๋าเงิน มา่ตั้งวางไว้ด้วย..
ไฉ่ซิงเอี้ย หรือ ไฉสิ่งเอี้ย เป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ให้คุณทางด้านเงินทอง และทรัพย์สิน ถือเป็นเทพเจ้าที่มีความสำคัญมากที่สุดของชาวจีนก่อนเริ่มเข้าสู่นักษัตรปีใหม่ จะเห็นได้ว่าชาวจีนหลายคนนิยมไปกราบไหว้บูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยในช่วงตรุษจีนมากเป็นพิเศษ เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย เรียกโชคลาภเข้ามาสู่ชีวิต ขณะที่หลายบ้านก็จะทำพิธีรับไฉ่ซิงเอี้ย ในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันซาจั๊บ จนถึงก่อนตี 1
3. ประดับตุ้ยเหลียนในบ้าน (คำกลอนอวยพรปีใหม่)
หากได้ไปเยือนบ้านคนจีน เราคงจะเห็นกระดาษสีแดง ๆ เขียนอักษรภาษาจีนสีทอง หรือสีดำตัวใหญ่ ๆ แปะอยู่ในบ้าน และที่ประตูบ้าน สิ่งนั้นเรียกว่า “ตุ้ยเหลียน” หรือ คำกลอนอวยพรปีใหม่ของคนจีน ซึ่งเป็นคำกลอนที่มีความหมายดี ๆ อวยพรให้ร่ำรวย มั่งมีเงินทอง มีความสุข มีโชคมีลาภ ค้าขายได้กำไร ส่วนแผ่นที่ติดตรงประตูนั้นจะเขียนคำว่า “ชุก ยิบ เผ่ง อัง” แปลว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนจะติดภาพเด็กผู้หญิง และเด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า “หนี่อ่วย” ไว้ในบ้านด้วย เพราะถือว่าเป็นภาพมงคลของจีน
4. กินเจในมื้อแรกของวันตรุษจีน
ในเช้าวันใหม่ของวันชิวอิก หรือวันขึ้นปีใหม่ ชาวจีนหลายบ้านจะรับประทานอาหารเจกันในมื้อแรกของปี งดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ เพราะเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับการกินเจตลอดปี
5. ใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ สีสันสดใส
มีธรรมเนียมของชาวจีนอย่างหนึ่งที่สืบทอดกันมานานแล้ว นั่นก็คือ ชาวจีนจะนิยมหยิบเสื้อผ้าสีสันสดใส สีสว่าง ๆ เช่น สีแดง สีทอง ซึ่งเป็นสีแห่งความสุข สีของความมงคลออกมาใส่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ เพราะเชื่อว่าจะนำความสว่างสดใส และเจิดจ้ามาให้ผู้สวมใส่ รวมทั้งใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ ด้วย ทั้งเด็กเล็ก ๆ ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อเอาเคล็ดในวันปีใหม่ให้ชีวิตสดใสราบรื่นเบิกบานไปตลอดปี ส่วนเสื้อผ้าสีขาว สีดำ ถือเป็นสีต้องห้ามในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะเป็นสีไว้ทุกข์ แสดงถึงความโศกเศร้า
6. รวมญาติกินเกี๊ยว
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนถือเป็นโอกาสหนึ่งที่หลาย ๆ ครอบครัวจะได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง เพื่ออวยพรวันปีใหม่ และพบปะสังสรรค์กัน จึงถือเป็น “วันรวมญาติ” อีกหนึ่งวัน ซึ่งในวันซาจั๊บ คนในครอบครัวจะมาร่วมโต๊ะรับประทานเกี๊ยวด้วยกันในมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ ซึ่ง “เกี๊ยว” นี้ จะต้องพับเป็นก้อนให้เหมือน “เงิน” ของจีน แทนความหมายว่า มั่งมีเงินทอง
7. อวยพรผู้ใหญ่ ด้วยส้ม 4 ผล
ตามประเพณีของชาวจีน ในวันชิวอิก ทุกคนจะนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าของบ้านนั้นก็จะต้องรับส้มมา 2 ผล และนำส้มที่ตัวเองเตรียมไว้วางคืนลง 2 ผล พร้อมกับเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้ 1 พาน และสมอจีนไว้รับแขกที่มาอวยพรด้วย
8. รับอั่งเปา-แต๊ะเอีย
..ในวันตรุษจีนนี้ เด็ก ๆ จะได้รับซองสีแดง ๆ จากญาติผู้ใหญ่ จะเรียกว่า “อั่งเปา” หรือ “แต๊ะเอีย” ก็ได้ เพื่ออวยพรให้เด็ก ๆ เจริญเติบโตแข็งแรง มีโชคลาภ ส่วนคนทำงาน คนที่มีเงินเดือนเป็นของตัวเองแล้ว ก็จะต้องให้อั่งเปากับเด็ก ๆ ในบ้านที่มีอายุน้อยกว่าด้วยเช่นกัน หรือเจ้านายจะให้อั่งเปาลูกน้องก็ได้ ..
ยังมีความเชื่ออีกหลายข้อที่ขึ้นอยู่กับประเพณี และธรรมเนียมของแต่ละชุมชน ซึ่งแต่ละบ้าน แต่ละครอบครัวก็จะปฏิบัติแตกต่างกันไป เช่น บางคนอาจเชื่อเรื่องโชคลางมาก ก็อาจจะให้ซินแสช่วยหาฤกษ์ยามก่อนจะก้าวเท้าออกจากบ้านไปเยี่ยมเยียนญาติในวันปีใหม่ หรือหลายคนก็เชื่อว่า หากได้ยินเสียงนกนางแอ่นร้อง หรือเห็นนกสีแดงในวันปีใหม่ จะทำให้โชคดีไปตลอดปีก็มี..
ขอบคุณ https://hilight.kapook.com/view/80448
http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0..