โป๊ะเช๊ะ ดอท คอม

ฝุ่นในกทม.เกินค่ามาตรฐาน คนกรุงเสี่ยงโรคปอด+มะเร็ง

โชว์ค่าฝุ่นทั่วกรุงเทพฯ สูงปรี๊ดเกินมาตรฐาน ชี้ฟ้าขมุกขมัวไม่ใช่หมอก !

จากกรณีสภาพอากาศเกือบทั่วทุกพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร มีลักษณะท้องฟ้าขมุกขมัวคล้ายกับหมอกลงจัด ทำให้หลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเหตุใดอากาศในช่วง 2-3 วันนี้ ถึงเปลี่ยนแปลงไป..

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 24 มกราคม 2561 เพจเฟซบุ๊ก ความรู้สนุก ๆ แบบหมอแมว ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ตกลงที่อากาศ 2-3 วันนี้ ขมุกขมัวมันไม่ใช่หมอก แต่มัน คือ PM2.5 สินะ PM 2.5 คือ ฝุ่นอนุภาคขนาดจิ๋ว ที่สามารถผ่านขนจมูก ขี้มูก โพรงจมูก คอ หลอดลมใหญ่ ขนพัดโบก เสมหะ หลอดลมเล็ก หลอดลมย่อย ไปตกที่ถุงลมได้โดยตรง ดังนั้น มันสามารถพาอะไรก็ตามที่อยู่ในตัวมัน เช่น หากเป็นฝุ่นที่มีสารเคมี ก็เอาสารเคมีไป ตกในปอดได้”

Drama-addict ก็ออกมาโพสต์ข้อความเช่นกัน ระบุว่า “ที่เห็นเป็นหมอกลงเช้านี้ที่กรุงเทพฯ นั่นไม่ใช่หมอก แต่เป็นฝุ่นควันอนุภาคขนาดจิ๋ว มักเกิดจากไฟป่าหรือมลภาวะจากโรงงานอุตสาหกรรม หากมีระดับสูงแล้วสูดเข้าไปจะเป็นผลเสียกับสุขภาพ ซึ่งในไทยตอนนี้แดงเถือก แต่ถ้าดูจากแอปฯ เช็กมลภาวะอากาศ จะยังเขียวปี๋เหมือนอากาศดีอยู่ เพราะเขาใช้ค่า pm 10 ซึ่งเป็นอนุภาคที่ใหญ่กว่าเป็นค่าชี้วัด ส่วนของเว็บต่างประเทศใช้ค่า pm 2.5”

.. แหล่งข่าวในกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยกับทีมข่าวช่องวัน ว่า ขณะนี้พื้นที่โดยภาพรวมของกรุงเทพมหานคร เกิดสภาวะอากาศนิ่งผิดปกติเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นควันจากรถยนต์รวมไปถึงโรงงานต่าง ๆ เบื้องต้นจากการตรวจวัด เมื่อเวลา 12.00 น. พบว่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกินมาตรฐานจริง ซึ่งประชาชนที่ป่วยเป็นโรคหืดหอบ หรือระบบทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน

 ในเวลาต่อมา เพจเฟซบุ๊ก กรมควบคุมมลพิษ ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า กรุงเทพฯ เกิดสภาพอากาศนิ่ง และชั้นอากาศผกผันใกล้พื้นดิน ทำให้มลพิษทางอากาศเกิดการสะสมตัวในปริมาณมาก ผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM 2.5 ใน กทม. เกินค่ามาตรฐานในทุกพื้นที่ ฝุ่นละออง PM 10 ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน โดยมีแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศหลัก ได้แก่ การจราจร รองลงมา คือ อุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวจะพบเป็นบางวันในช่วงฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระดับ PM 2.5 สูงขึ้นผิดปกติในช่วงนี้
          สำหรับค่าระดับฝุ่นควันที่แชร์ในเพจดังต่าง ๆ ซึ่งเป็นรูปจากเว็บไซต์หนึ่งที่ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เว็บไซต์ดังกล่าวใช้ค่าเฉลี่ย 1 ชั่วโมง เทียบกับดัชนีคุณภาพอากาศของ U.S. EPA ซึ่งต้องใช้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงในการเทียบ จึงทำให้การรายงานดัชนีคุณภาพอากาศของเว็บไซต์ดังกล่าวอยู่ในช่วงสีแดง (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) ข้อเท็จจริงหากใช้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง จะอยู่ในเกณฑ์สีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) 

 

          อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องดังกล่าวได้แพร่สะพัดทั่วโลกออนไลน์ ทำให้หลายคนกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แล้วควรที่จะรับมืออย่างไร ล่าสุด มีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขเตรียมที่จะออกประกาศชี้แจงประชาชนในเร็ว ๆ นี้ .
ที่มา :เฟซบุ๊ก ความรู้สนุก ๆ แบบหมอแมว, Drama-addict, Title Kerdphoksap , กรมควบคุมมลพิษ  one31.net