เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า นางหลิน หญิงชาวไต้หวันคนหนึ่งได้ยื่นฟ้องหย่าสามีของเธอ เหตุเพราะเขาปล่อยปละเลย ไม่สนใจข้อความที่เธอส่งไปหาเขาทางไลน์ (Line) โดยอ่านอย่างเดียวแต่ไม่เคยส่งข้อความตอบกลับหาเธอเลย แม้แต่ข้อความเดียว
การ “อ่านแล้วไม่ตอบ” นั้น ยังถูกเรียกว่า บลู-ทิกกลิง (Blue-Tickling) ซึ่งอ้างถึงฟังก์ชั่นที่บรรจุมาในแอปฯ แชทต่าง ๆ เช่น วอทแอป (WhatsApp) โดยเมื่อเราส่งข้อความหาใครสักคนไป ถ้าอีกฝ่ายได้รับและกดเปิดอ่านแล้ว จะมีเครื่องหมายถูกสีน้ำเงินปรากฏท้ายข้อความ สำหรับไลน์ จะขึ้นว่า Read หรือ อ่านแล้ว
สามีของหลินไม่ตอบข้อความไลน์เป็นเวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว ไม่ว่าจะส่งอะไรไป เขาก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาหาเธอ ครั้งหนึ่งหลินประสบอุบัติเหตุรถชน เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและรอการรักษาอยู่ในห้องฉุกเฉิน เธอส่งไลน์ไปบอกสามีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ทำเหมือนเดิม นั่นคืออ่านแล้วไม่ตอบ
ประมาณ 1-2 เดือนหลังเกิดอุบัติเหตุ สามีก็ส่งข้อความไลน์มาหาหลินในที่สุด แต่ข้อความที่เขาส่งกลับมาระบุว่ามีพัสดุส่งมาถึงเธอ และพูดเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสุนัขของพวกเขา ไม่มีส่วนที่แสดงถึงความห่วงใยในตัวภรรยาเลยแม้แต่นิดเดียว
จากกรณีดังกล่าว ผู้พิพากษาศาลครอบครัวจังหวัดซินจู๋ ระบุว่า การที่สามีของหลินไม่ตอบข้อความที่เธอส่งไปหาเขาทางไลน์นั้น มันบ่งชี้ว่าเขาไม่สนใจภรรยาและเธอสามารถใช้หลักฐานนี้ฟ้องหย่าเขาได้ ถึงแม้ว่าสามีจะตามมาเยี่ยมหลินที่โรงพยาบาลในภายหลัง แต่มันก็ไม่สามารถลบล้างหลักฐานแห่งการละเลยนี้ได้
“คนที่เป็นคู่รักกันไม่ควรปฏิบัติต่อกันเช่นนี้ ข้อความในไลน์คือหลักฐานชิ้นสำคัญ มันบ่งชี้ให้เห็นถึงชีวิตสมรสของโจทก์และจำเลย ว่าทั้งคู่มีปัญหาด้านการติดต่อสื่อสาร ตอนนี้อินเทอร์เน็ตเป็นอะไรที่แพร่หลาย ข้อมูลในอดีตเหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานได้”
“ข้อความที่โจทก์ส่งไปหาจำเลยนั้นถูกเปิดอ่าน แต่ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด นั่นหมายความว่าจำเลยปล่อยละละเลยไม่สนใจโจทก์ ศาลพิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากกัน” ผู้พิพาษาศาลครอบครัวเมืองซินจู๋ ประกาศในชั้นศาล
ขอบคุณ ข่าวไลน์