โป๊ะเช๊ะ ดอท คอม

“ข้าวไทย” หมดสต๊อกหลวง! ราคาขยับขึ้นแรงสุดรอบ 3 ปี

 

วันที่ 18 มิ.ย.60–3 ปีของรัฐบาลภายใต้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้เข้ามาบริหารประเทศได้เร่งระบายข้าวในสต๊อกที่เป็นภาระตกค้างมาจากรัฐบาลชุดก่อนกว่า 18 ล้านตัน ณ ปัจจุบัน(15 มิ.ย.60)รัฐบาลโดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ระบุยังมีข้าวเหลือรอระบายราว 2.9 ล้านตัน เป็นข้าวเพื่อบริโภค 1.6 แสนตัน ที่เหลืออีกประมาณ 2.7 ล้านตันเป็นข้าวเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม และพลังงานทดแทนนั้น

-ยกนิ้วรัฐเคลียร์สต๊อก
“เจริญ เหล่าธรรมทัศน์” นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า 3 ปีของรัฐบาลภายใต้ คสช.สามารถขายข้าวในสต๊อกได้เกือบหมดแล้วต้องยกเครดิตให้ทั้งคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) รัฐมนตรีเกษตรฯ รัฐมนตรีพาณิชย์ โดยเฉพาะกรมการค้าต่างประเทศที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และระบายข้าวได้อย่างถูกจังหวะ ถูกเวลาทำให้กระทบกับตลาดไม่มาก

“ตั้งแต่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศกว่า 3 ปี ปัจจุบันได้ขายข้าวในสต๊อกออกไปประมาณ 14 ล้านตัน(มูลค่าประมาณ 1.29 แสนล้านบาท) ในส่วนของข้าวเพื่อบริโภคถือว่าหมดสต๊อกแล้วเพราะเหลือน้อยมาก ส่วนที่เหลือเป็นข้าวที่รอระบายสู่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์และพลังงานก็จะไม่กระทบกับผลผลิตและราคาข้าวที่จะออกมาในช่วงจากนี้ไป”

 

ไทยพ้นวิกฤติข้าวแล้ว
วิกฤตการณ์ข้าวไทยผลพวงจากโครงการรับจำนำข้าวที่กดทับราคาข้าวไทย และราคาข้าวโลกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ณ วันนี้ ถือว่าได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งหลังจากเดือนเมษายนที่มีข่าวไทยขายข้าวในสต๊อกหมดแล้ว ทำให้ตลาดเริ่มหวั่นไหวว่าข้าวอาจจะขาดตลาด ขณะที่บังกลาเทศสต๊อกข้าวลดต่ำลงในรอบหลายปีจากเคยสต๊อกประมาณ 5 แสนตันลดเหลือ 1 แสนกว่าตันก็ออกมาไล่ซื้อทั้งจากอินเดีย เวียดนามรวมถึงไทย ขณะที่อิรักหนึ่งในตลาดใหญ่ข้าวไทยในอดีต ปีหนึ่งเคยนำเข้า 7-8 แสนตัน แต่ไม่ซื้อข้าวไทยมา 4 ปีแล้ว หลังมีผู้ประกอบการบางรายส่งข้าวด้อยคุณภาพไปให้ ส่วนอิหร่านที่เคยนำเข้าเข้าไทยปีละกว่า 1 ล้านตัน และหยุดซื้อไปหลายปี และหยุดนำเข้าจากมีปัญหาเดียวกัน ก็กลับมาซื้อข้าวไทยอีกครั้ง โดยเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้เข้ามาสั่งซื้อข้าวไทยประมาณ 2 แสนตัน
“ในส่วนของอิรักล่าสุดทางสมาคมฯได้เชิญรัฐมนตรีการค้าของเขามาร่วมงานไทยแลนด์ไรซ์ คอนเวนชั่น 2017 เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม และได้มาเยี่ยมเราที่สมาคม เราได้รับปากว่าต่อไปนี้ข้าวที่จะส่งไปอิรักทางสมาคมและสำนักมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์จะช่วยดูแลเรื่องคุณภาพเพื่อช่วยสร้างหลักประกันความมั่นใจ ซึ่งการประมูลในอิรักในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ประมาณ 3 หมื่นตัน หวังเขาจะซื้อข้าวไทย”

 

ราคาข้าวส่งออกพุ่ง
อย่างไรก็ดีผลพวงจากข้าวไทยใกล้หมดสต๊อก ไม่เป็นแรงกดดันในตลาด ผลผลิตบางประเทศ เช่นศรีลังกาได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ขณะที่สต๊อกข้าวหลายประเทศลดลง ส่งผลให้เวลานี้ราคาข้าวในตลาดโลกเป็นไปตามกลไกตลาด และฐานราคาได้เข้าสู่ปกติโดยปรับขึ้นมาอยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้าที่ไทยจะมีโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ล่าสุดข้าวขาว 5% ส่งออกราคาเอฟโอบีของไทยขยับขึ้นไปอยู่ที่ 440 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันจากช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ปีนี้อยู่ที่ 350-360 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน หรือขึ้นมาประมาณ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนข้าวประเภทเดียวกันจากเวียดนามจาก 330-340 ดอลลาร์ ก็ขึ้นมาที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ข้าวอินเดียขึ้นมาระดับ 425-430 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน

“ราคาข้าวได้ปรับฐานใหม่ในรอบ 3 ปี ถือว่าปรับแรงสุด และมากที่สุด ราคาที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าตลาดได้ยอมรับแล้ว ต่อไปราคาข้าวที่ระดับ 300 เหรียญต่อตันจะไม่เห็นแล้ว ซึ่งทั้งปีนี้ราคาข้าวขาว 5% ส่งออกจะอยู่ที่ระดับ 400 กว่าเหรียญต่อตันผมรับรองได้ ซึ่งราคาข้าวส่งออกที่ปรับฐานขึ้นเวลานี้มีผลให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศขยับตาม จากระดับ 7,500 บาทต่อตันในช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เวลานี้ขึ้นไปที่ 9,000 บาทต่อตัน ส่วนราคาข้าวเปลือกจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปดูผลผลิตข้าวนาปรังรอบ 2 ที่จะออกมาในช่วงเดือนกรกฎาคมว่าจะมีมากน้อยเพียงใด และผลพวงจากราคาข้าวเปลือกปรับขึ้นจะจูงใจชาวนาปลูกข้าวเพิ่มมากน้อยเพียงใด ผลผลิตจะเสียหายแค่ไหน รวมถึงต้องดูผลผลิตเพื่อนบ้านเช่นเวียดนาม เมียนมา กัมพูชา ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร เพราะดีมานต์-ซัพพลายมีผลต่อราคา”

 

ตลาดเป็นของผู้ขาย
“เจริญ”กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ถือเป็นตลาดของผู้ขาย มองว่าจากนี้ราคาข้าวส่งออกของไทยจะยังดีต่อเนื่อง จากมีหลายประเทศคาดจะมีการนำเข้าข้าวเพิ่ม เช่น ฟิลิปปินส์ยังต้องซื้ออีกประมาณ 1.5 ล้านตันจากก่อนหน้าได้อั้นมานานและคิดว่าจะมาซื้อข้าวไทยเมื่อไรก็ได้ จากไทยมีข้าวในสต๊อกมาก แต่วันนี้ไม่มีแล้ว ต้องเร่งซื้อ ส่วนอินโดนีเซียที่เคยประกาศว่าจะไม่นำเข้าข้าว เชื่อว่าที่สุดแล้วต้องนำเข้าอีกไม่ต่ำกว่า 5 แสนตัน นอกจากนี้ยังมีสัญญาข้าวรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)ที่ไทยต้องส่งให้จีนอีก 6 แสนตัน บังกลาเทศที่มาติดต่อขอซื้อข้าว(ยังไม่ทราบปริมาณ) และในส่วนของอิหร่านที่คาดว่ายังมีความต้องการนำเข้าจากไทยเพิ่มอีก ขณะที่ในส่วนของตลาดข้าวนึ่งก็มีคำสั่งซื้อโดยปกติเข้ามากว่า 1 แสนตันต่อเดือน

“ผู้ส่งออกแทบไม่มีข้าวขายแล้ว ต้องใช้ข้าวในสต๊อกแต่ละรายที่มีอยู่รวมถึงหาซื้อในตลาดส่งออกแต่ข้าวก็มีปริมาณไม่มาก ต้องรอข้าวนาปรังรอบ 2 ที่ผลผลิตจะออกในช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม ขณะที่ซื้อข้าวจากโรงสีก็ยากขึ้น เพราะพอข้าวราคาขึ้นโรงสีจากเคยให้ 100 กระสอบก็ขาย 50 กระสอบ เพื่อรอราคาขึ้นอีก”

 

..ที่แน่นอน ต้องแสดงความยินดีกับชาวนาไทยด้วยนะครับ

จาก http://www.springnews.co.th/th/2017/06/54882/?sp