ตอนนี้ เทคโนโลยี การถ่ายภาพ พัฒนาขึ้นมาก อุปกรณ์การถ่ายภาพแทบทุกอย่างในยุคนี้สามารถถ่ายภาพขายได้ เพราะยุคนี้เว็บถ่ายภาพส่วนใหญ่เปิดรับมากขึ้น
โดยเฉพาะภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือก็ยังได้รับการยอมรับถึงขนาด มี Application ที่เปิดขึ้นมาเพื่อรับภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือโดยตรงด้วยซ้ำ
ดังนั้นเพียงแค่นี้ก็น่าจะยืนยันได้แล้วว่ากล้องอะไรก็ส่งขายได้ เพียงแต่ ….
ถ้าส่งเพื่อสอบ เน้นนะครับว่า เพื่อสอบ Shutterstock เพราะการสอบมันมีมาตรฐานกำหนด ว่าต้องได้ภาพมาตรฐานที่ดีพอสมควร
ดังนั้นเราก็ต้องมาพูดถึงกันหน่อยว่า อุปกรณ์แบบไหนเหมาะกับการถ่ายภาพเพื่อสอบมากน้อย ต่างกันอย่างไร
** ขอไม่พูดถึงยี่ห้อหรือรุ่น ของกล้องใดๆโดยตรงนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็นค่ายขึ้นมา เอาเป็นว่าพูดรวมๆ ส่วนภาพประกอบก็แค่ยกตัวอย่างอย่าได้คิดมาก
ประเภทกล้องที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสอบ Shutterstock
A – DSLR
ภาษาบ้านๆก็กล้องใหญ่เปลี่ยนเลนส์ได้
บอกได้เลยว่ากล้องที่มีขายในท้องตลาดทุกวันนี้ใช้ถ่ายสอบ stockphoto ได้หมด มันดีพอสำหรับการสอบรวมไปถึงการส่งขายเป็นอาชีพด้วย
จะต่างกันในแต่ละรุ่นก็ตรงขนาด pixles ที่ยิ่งมีเลขมากๆ เช่น 24MP ก็ทำให้เราส่งภาพขายได้ขนาดใหญ่ขึ้น ในหลายๆเว็บตั้งราคาภาพตามขนาดภาพด้วย ดังนั้นกล้องที่มีขนาดภาพมากกว่า 24mp. ขึ้นไปจะได้เปรียบ
นอกนั้นก็ส่งขายได้ปรกติ ถ้ารุ่นไหนถ่ายวีดีโอได้ก็ยิ่งดี เพราะเราจะสามารถส่งงานได้หลากหลายประเภทมากขึ้นด้วย
ถ้าเป็นกล้องรุ่นเล็กๆจะเสียเปรียบเรื่องการจัดการ noise ดังนั้นการมีขาตั้งกล้องจะช่วยได้มาก เพราะหากคุณถ่ายภาพบนขาตั้งกล้อง ความเสียเปรียบนี้ก็จะหายไปได้เช่นกัน
เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการขายภาพและการสอบ
B – Mirrorless
หรือเรียกง่ายๆ กล้องเล็กเปลี่ยนเลนส์ได้
มันคือกล้อง DSLR ที่ตัดเอากระจกสะท้อนภาพออก แล้วเปลี่ยนเป็นดูภาพจากจอ LCD หรือช่องมองภาพอิเล็คโทรนิคแทน ทำให้ขนาดกล้องเล็กลงมาก แต่ยังคงคุณภาพของ file ได้ใกล้เคียงกับกล้อง DSLR
เรื่องคุณภาพ file ไม่ต่างจาก DSLR นัก แต่ก็ต้องดูเป็นรุ่นๆไป รุ่นแพงๆ บางรุ่นคุณภาพดีกว่า DSLR ด้วยซ้ำ รุ่นเล็กๆหรือรุ่นเก่าๆ File อาจจะยังไม่ดีนัก
ความเสียเปรียบของกล้อง Mirrorless อีกอย่างคือ อุปกรณ์เสริมเช่นเลนส์ แฟลช มีให้เลือกใช้น้อยกว่า
ความสะดวกในการใช้อุปกรณ์มีน้อยกว่า เพราะพื้นที่บนตัวกล้องมีน้อย ปุ่มๆต่างๆอาจจะต้องเลือกผ่านเมนุ ไม่สามารถกดได้จากบนตัวกล้องเป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูกันไปว่าอนาคตจะมีการพัฒนาไปถึงไหน อาจจะกลายเป็นสะดวกกว่าก็ได้ในอนาคต
ที่สำคัญราคาแพงกว่า DSLR มากถ้าเทียบระดับคุณภาพใกล้ๆกัน เลนส์ช่วงเดียวกัน ราคาจะสูงกว่า
แต่ข้อดีคือน้ำหนักเบา บอดี้สวยมากในหลายๆรุ่น ทำแนว retro น่าใช้มาก มีหน้าตาหลากหลาย พกพาสะดวก ทุกวันนี้ผมเองก็เปลี่ยนจาก DSLR มาใช้ Mirrorless แทนสักพักแล้วเพราะเริ่มแบบกล้องใหญ่ไม่ไหว
มันก็ใช้ถ่ายภาพขายได้ดีระดับนึงเลย รวมถึงวีดีโอด้วยในกล้องบางรุ่น แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองการใช้งานได้เท่ากับ DSLR หากมีงานที่จริงจังก็ยังคงต้องหยิบ DSLR มาใช้อยู่ดี
C – Compact Camera
กล้องเล็กเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ จริงๆทุกคนคงรู้จักกันอยู่แล้วคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
กล้อง Compact ทุกวันนี้คุณภาพดีขึ้นมาก สามารถพกใส่กระเป๋าติดตัวตลอดเวลาได้ เจออะไรหยิบออกมาถ่ายได้เลย เป็นอีก 1 อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายภาพขายได้เช่นกัน
แต่บอกเลยว่าคุณภาพ file ยังไม่ดีนัก แค่พอใช้ได้ ต่อให้เป็นรุ่นดีมากๆ ก็แค่ใกล้เคียง DSLR ขึ้นมาระดับนึงเท่านั้น ใช้เพียงแก้ขัด หรือยามจำเป็น
แต่ถ้าจะคาดหวังใช้เป็นกล้องตัวหลัก ก็จะยากหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แค่ยากหน่อย แต่สำหรับการสอบ ไม่แนะนำ
หากจะใช้ต้องมีการเตรียมตัวถ่ายอย่างดี เพื่อให้สภาพแสงดี และถ่ายบนขาตั้งเพื่อให้ภาพนิ่งที่สุด จึงจะได้คุณภาพที่ดีพอ ทั้งนี้ถ้าคุณพยายามก็อาจจะพอไหว แต่เหนื่อยนะบอกเลย
D – Smartphone
กล้องโทรศัพท์มือถือ ตัวนี้แหละที่เป็นสิ่งที่คนถามกันมามากว่าดีพอมั้ย เนื่องจากแทบทุกคนมีโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายรูปได้ จึงไม่อยากจะไปซื้อกล้องเพิ่มอยากถ่ายภาพขายได้เลย
ก็ต้องบอกเลยว่ากล้องมือถือต่อให้เป็นรุ่นที่คุณภาพดีมากๆ รุ่นใหม่สุด มันก็ยังเป็นแค่กล้องมือถือ ถ้าจะเอาไปเทียบกับกล้อง DSLR รุ่นใหม่ๆก็คงยังไม่ไหว
แม้แต่เทียบกับกล้องคอมแพ็คก็ยังสู้ยาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ากล้องโทรศัพท์มือถือยุคนี้พัฒนามาไกลมาก อีกไม่นานอาจจะมีคุณภาพเทียบเท่ากล้องระดับที่ใหญ่ขึ้นก็ได้
ความยากของกล้องโทรศัพท์มือถือก็คือคุณไม่สามารถควบคุมมันได้ดังใจ ควบคุมแสง ความคม WB ชัดลึกชัดตื้น ยากมาก ที่สำคัญเสี่ยงที่ภาพจะไม่ชัดสูงมาก
นี่แหละที่ทำให้เรายังไม่สามารถใช้กล้อง Smartphone เป็นกล้องหลักได้ หรือใช้ในการสอบก็ไม่แนะนำนัก ถ้าจะถ่ายก็ทำได้แต่ยากขึ้นไปกว่ากล้อง Compact เสียอีก
แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง อย่างที่เคยเขียนเอาไว้ข้างบน ภาพจากโทรศัพท์มือถือจะมีตลาดของมันเอง ถึงแม้จะไม่แนะนำสำหรับการสอบ
แต่คุณก็สามารถนำภาพจาก โทรศัพท์มือถือไปส่งได้ ด้วย Application ที่เว็บขายภาพต่างๆเปิดรับโดยตรง ในโพสต์ที่ผมเคยเขียนไว้
E- อุปกรณ์อื่นๆ เช่นกล้องวีดีโอ กล้องฟิล์ม เลนส์เสริม สำหรับ smartphone
ในข้อนี้ต้องดูไปเป็นอุปกรณ์เพราะมันกว้างมาก คุณภาพของอุปกรณ์ก็ต่างกัน ราคาก็ไม่เท่ากัน กล้องวีดีโอรุ่น top บางรุ่น อาจจะถ่ายภาพนิ่งดีพอ บางรุ่นก็แค่พอถ่ายได้เป็นต้น
กล้องฟิล์มเมืออัดภาพออกมาก็ต้องเอามาถ่าย copy เป็น digital อีกอยุ่ดี คงไม่สะดวกนักในการขาย file digital แต่ถ้าจะใช้บ้างก็คงได้ แต่ถ้าจะเน้นเอามาสอบ น่าจะลองอุปกรณ์อื่นๆดีกว่า
ส่วนเลนส์เสริมสำหรับโทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์ใหม่มาก คุณภาพส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกับภาพจากโทรศัพท์มือถือไปจนถึงกล้อง compact ก็ต้องไปตามหาดูรีวิวกันเอานะครับ เพราะมันยังไม่แพร่หลายมากจนเป็นมาตรฐาน
เอาหล่ะมาสรุปง่ายๆนะครับ
1. กล้องทุกประเภทที่เขียนมาสามารถส่งขายภาพได้ สามารถส่งสอบได้ แต่ ความยากง่ายและโอกาสที่ภาพจะได้รับการยอมรับจากผู้ตรวจก็จะแตกต่างกันไปตาม เกรดที่ผมได้เขียนไว้
คุณสามารถใช้ได้ทุกอย่างแต่ก็ต้องใช้ฝีมือมากขึ้นถ้าไม่ได้ใช้กล้อง DSLR หรือ Mirroeless
2.ขาตั้งกล้องสำคัญสำหรับกล้องทุกประเภท
3.DSLR กลับมีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับคุณภาพ ราคารุ่นเล็กๆถูกกว่าโทรศัพท์มือถือเสียด้วยซ้ำ บางทีกล้องมือ 2 ราคาไม่ถึงหมื่นคุณก็ถ่ายภาพขายได้
4.เลนส์อะไรก็ใช้ได้แม้กระทั่งเลนส์ Kit แต่ความคม Depth ที่ทำให้ชัดตื้น การเปิดรับแสง มันก็ต่างกันไปตามราคา ยิ่งเลนส์ก็มีความสมบูรณ์มากขึ้น ราคาก็มักจะสูงขึ้น คุณก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับงานของคุณ
*** ผมจะไม่ขอให้คำแนะนำว่าคุณควรใช้กล้องรุ่นไหน เลนส์ยี่ห้อไหนนะครับคุณต้องไปทำการบ้านกันเอาเอง
ถามมาก็ไม่ตอบนะเออ ไม่อยากกลับเข้าสู่สงครามแล้ว 555
เทคโนโลยีมันเปลี่ยนตลอดวันนี้เป็นอย่างที่ผมเขียน ไม่แน่อีก 2-3 ปีมันอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้
คำแนะนำส่วนตัวสำหรับการเริ่มต้นและการสอบ
มองหากล้องDSLR เล็กๆสักตัว พร้อมเลนส์คิท หรือเลนส์ fixed 50 mm. เป็นเลนส์ที่คุ้มราคามาก ( สัดส่วนไม่เพี้ยน และราคาถูกสุดๆ ซึ่งผมก็ใช้ตัวนี้แหละหลักๆเลยตัวเดียวจบ ถ้าถ่ายมาโครได้ยิ่งดี )
ราคายิ่งถูกก็ถอนทุนได้เร็ว เมื่อมีค่าตอบแทนจากการถ่ายภาพเข้ามาถึงเวลานั้นเราค่อยขยับขยายก็ได้ครับ
ขอบคุณ https://www.paperboxstockphoto.com/?p=1206