ข่าวเด่น » “กะทะวู้ดดี้” ทุ่มโฆษณาไม่อั้น 1,651 ล้านบาท

“กะทะวู้ดดี้” ทุ่มโฆษณาไม่อั้น 1,651 ล้านบาท

11 พฤษภาคม 2017
2581   0

ขายกะทะอะไร ทำไมต้องทุ่มงบโฆษณาขนาดนี้? ทำยอดขายได้เท่าไหร่กัน? เป็นคำถามที่ทำให้หลายคนอยากรู้จักที่มาของ “กะทะโคเรียคิงKorea King” หรือบางคนเรียก “กะทะวู้ดดี้” แบรนด์กะทะที่ทุ่มใช้เม็ดเงินโฆษณาเป็นอันดับแรกแซงแบรนด์ดังข้ามชาติ..

ณัฐวุฒิ หิรัญพันธุ์ทิพย์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิโดริ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการวางกลยุทธ์การตลาด กะทะโคเรียคิง บอกกับ POSITIONING ถึงที่มาของกะทะโคเรียคิง นำเข้ามาจำหน่ายโดยบริษัท วิซาด โซลูชั่น จำกัด

 

สาเหตุที่เลือกทำตลาดกะทะ เพราะผลิตภัณฑ์เครื่องครัวของไทยมีขนาดตลาดใหญ่มาก จากการประมาณการณ์คาดว่ามูลค่าตลาดของกะทะจะสูงถึง 8,000 ล้านบาท ประกอบกับผู้บริโภคคนไทยไม่ได้ยึดติดกับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง หากนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ น่าจะเป็นทางเลือก ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค

 

เมื่อฐานลูกค้าอยู่ในระดับ “แมส” การสร้างการรับรู้ให้เข้าถึงลูกค้าในวงกว้างจึงเป็นเรื่องสำคัญ จึงเป็นที่มาของการใช้งบโฆษณาไม่ต่ำกว่า 140-160 ล้านบาทต่อเดือน ลงโฆษณาในสื่อต่างๆ โดยให้น้ำหนักไปกับสื่อทีวี ในช่อง 3, 5, 7, 9  ในช่วงไพรม์ไทม์ ช่วงข่าว ละคร เสาร์ อาทิตย์ รวมทั้งช่องทีวีดิจิตอล ช่องดาวเทียม และสื่อออนไลน์ เพื่อต้องการสร้างการรับรู้ไปถึงให้เร็วที่สุด

โดยมี “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ จนหลายคนเวลานี้เรียกกันติดปากว่า “กะทะวู้ดดี้”

“จริงๆ แล้วมาจากความชอบส่วนตัวของผมล้วนๆ ประกอบกับด้วยคาแร็กเตอร์ของพี่วู้ดดี้เป็นคนนำ

นอกจากทุ่มอัดฉีดเม็ดเงินใช้สื่อเพื่อสร้างการรับรู้เรื่องแบรนด์แล้ว งบลงทุนอีกส่วนหนึ่งยังนำมาใช้ในการพัฒนาสินค้า เพื่อนำไปผลิตและออกแบบกะทะรุ่นใหม่ๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องครัว ภายใต้แบรนด์โคเรียคิง ที่จะมีตามมาในอนาคต หากนับรวมๆ แล้ว ใช้งบไม่น้อยกว่าพันล้านบาทขึ้นไป

ถามว่าใช้งบขนาดนี้คุ้มมั้ย ? “ถือได้การตอบรับจากผู้บริโภคดีพอสมควร ในกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจสุขภาพ ถ้ามองในแง่ยอดขายในแต่ละเดือนถือว่ายังไม่เยอะมาก แต่ในมุมของแบรนด์ เราแฮปปี้มาก ดูจากผลวิจัย ที่เราจ้างให้สอบถามผู้ที่ซื้อกะทะโคเรียคิงจำนวน 1,200 คน พบว่าลูกค้าที่ใช้แล้วบอกต่อให้เพื่อนให้ญาติมาใช้ มีประมาณ 70% ใช้แล้วดีแต่เฉยๆ 20% ส่วนคนที่ใช้แล้วไม่ชอบ มีแค่ 2-3% ถือว่าเป็นผลตอบรับที่ดีมาก”

 

“ผลตอบรับดีมาก แต่ก็ต้องมีเรื่องต้องเรียนรู้อีกมาก เพราะเราเป็นแบรนด์ใหม่ที่ต้องแข่งขันกับ 20 แบรนด์ ซึ่งล้วนแต่เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่อยู่ในตลาดมาก่อน ก็ยังต้องใช้เวลา”

ณัฐวุฒิมองว่า ส่วนตัวของเขาแล้ว มองว่าสาเหตุที่ทำให้โคเรียคิงได้การตอบรับจากลูกค้า มาจากคุณภาพสินค้า ราคาไม่แพง และการใช้งบโฆษณาจำนวนมาก สร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้ตรงจุด

“ช่วงจังหวะที่เราเข้ามาในตลาด ต้องการให้คนรับรู้แบรนด์ก่อน จึงต้องทุ่มงบไปที่ทีวี ใช้ถึง 80% ส่วนสื่อออนไลน์ 20% เพราะสื่อทีวีเข้าถึงคนทั่วไปได้มากกว่า แต่เวลานี้เมื่อคนดูทีวีน้อยลง มีแผนจะปรับสัดส่วนการใช้งาน ออนไลน์และออฟไลน์อย่างละครึ่ง”

“เคยมีเคส คนหมั่นไส้แบรนด์ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยใช้ ไปเขียนต่อว่าเราในออนไลน์ ผมไปหาเขาด้วยตัวเองเพื่อจะได้รู้ว่าเขาคิดอย่างไร จะได้นำมาปรับปรุง เพราะเราถือว่าลูกค้าทุกคนสำคัญ แต่ที่ประทับใจไปกว่านั้น คนที่ตอบในออนไลน์ ไม่ใช่ทีมงานของเรา แต่เป็นลูกค้าไปช่วยกันตอบ สะท้อนได้ว่าลูกค้ารักแบรนด์เรา”

และนี่เองก็ทำให้เขามั่นใจว่า โอกาสในการขยับจาก “คิงส์ ออฟ กะทะ” ไปสู่การเป็นแบรนด์เครื่องครัวอันดับ 1 คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ณัฐวุฒิทิ้งท้ายด้วยว่า การเป็นนักการตลาดที่ดี ควรจะขายได้ทุกอย่าง ไม่จำกัดว่าต้องเป็นสินค้าชนิดไหน ขอให้มีสินค้าคุณภาพ ราคาเหมาะสม มีความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอความแปลกใหม่ไปสู่ตลาด และที่สำคัญต้องจริงใจ โอกาสจะประสบความสำเร็จก็ไม่ยาก

จาก http://positioningmag.com/1113022