เนื้อหาที่เกี่ยวข้องเวอร์ชั่นเก่า http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php/topic,98851.0.html
ในยุคที่เต็มไปด้วยของก๊อบปี้เกลื่อนตลาด ไม่เว้นแม้ตลาดพระเครื่อง ที่มี “พระเทียม” วางกันเต็มแผง แยกแทบไม่ออกว่าอะไรเก๊ แท้ เพราะนักดูพระประจำแผงก็ยังเป็น “เซียนเก๊” จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะพิสูจน์ว่าอะไรเป็นของแท้
ไม่ใช่ทุกคนที่ จะชี้ชัดได้ว่า พระเครื่ององค์ใดเป็นของแท้หรือเทียม นอกจากผู้ที่ศึกษาค้นคว้าแบบลึกซึ้ง ตั้งแต่ตำนาน การสร้าง พิธีการ ลักษณะแม่พิมพ์ เนื้อมวลสาร ปีที่สร้าง ในเมืองไทยมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ศึกษาแบบจริงจัง จนเรียกได้ว่าเป็น “เซียนพระ”
สำหรับเซียนมือหนึ่งพระสมเด็จวัดระฆัง ต้องยกให้ “วิโรจน์ ใบประเสริฐ” หรือที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่องว่า “เซียนเธ้า ท่าพระจันทร์” วัย 79 ปี ผู้ที่ยังคงจดจำตำหนิทุกตำแหน่งของพระสมเด็จวัดระฆัง ยอดปรารถนาของบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล เป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคีที่มีราคาหลักล้านถึงหลายสิบล้าน
ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน หรือมติชน
อคา เดมี จึงได้เปิดอบรมหลักสูตรการบรรยายความรู้เรื่อง “ทักษะพื้นฐาน ความรู้เรื่องพระสมเด็จวัดระฆัง” โดยเชิญเซียนเธ้า ท่าพระจันทร์ มาเป็นวิทยากรผู้อบรมถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาดูพระสมเด็จวัดระฆังที่ไม่เคยเผย ที่ไหนมาก่อน และมี “วัธนชัย มุตตามระ” หรือ “แทน ท่าพระจันทร์” มาช่วยเสริมอีกแรง คอร์สนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมเต็มทุกที่นั่ง ทั้งเซียนพระมืออาชีพและมือสมัครเล่นมาอัพเดตข้อมูลความรู้ใหม่ รวมทั้งนักสะสมพระเครื่อง ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ และบุคคลที่มีชื่อเสียง อาทิ พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
เซียน เธ้า ท่าพระจันทร์ ได้เผยเคล็ดลับการดูพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์ฐานแซม และพิมพ์เกศบัวตูม ด้วยการศึกษาแม่พิมพ์ เนื่องจากแม่พิมพ์พระสมเด็จวัดระฆัง องค์แท้มีรูปแบบที่ตายตัวเลียนแบบได้ยาก
จากคำแนะนำการดูฉบับ ละเอียดยิบจากปากของเซียนเธ้า ถอดความออกมาคร่าว ๆ ได้ว่า หลักสำคัญในการดูว่าแท้ หรือเทียม คือตำหนิที่ไม่อาจลอกเลียนแบบ หรือเปลี่ยนแปลงได้ ก็คือแม่พิมพ์
จุดแรก พระพักตร์พระสมเด็จวัดระฆังของจริงจะต้องหันพระพักตร์ไปทางซ้ายหัวเข่าขวา พระจะจม ส่วนหัวเข่าทางซ้ายจะนูนกว่า จุดนี้เองเป็นสิ่งที่เลียนแบบไม่ได้ เพราะนี่คือสุดยอดศิลปะแม่พิมพ์ ผู้แกะพิมพ์คำนึงถึงสัดส่วนมิติความเป็นจริงจากพระพุทธรูป
จุดที่ 2 นำกระดาษมาทาบจากปลายเกศถึงฐานล่างด้านซ้ายพระ จะสัมผัสกันเป็นเส้นตรงตั้งแต่ปลายเกศมาชนหัวเข่าและยาวมาถึงฐาน ต่างกับด้านขวาพระ หากทาบลงในลักษณะเดียวกันจะไม่เป็นเส้นตรง เนื้อกระดาษจะเกยพื้นที่หัวเข่าด้านซ้าย หากทาบจากปลายเกศมาถึงปลายเข่าก็จะเลยฐานออกไป จุดสังเกตนี้เซียนเธ้าบอกว่า “ไม่เคยเฉลยที่ไหนมาก่อน กว่าจะค้นพบจุดนี้ได้ ต้องใช้เวลาถึง 20 ปี”
จุดที่ 3 รูปพระพักตร์คล้ายผลมะตูมป้อม มีใบหูทั้งสองข้าง แต่อาจจะกดพิมพ์ติดบ้าง ไม่ติดบ้าง ขึ้นอยู่กับการแกะแม่พิมพ์
จุด ที่ 4 เส้นซุ้มครอบระฆัง โดยธรรมชาติของระฆัง 2 ข้างจะเท่ากัน แต่สมเด็จวัดระฆังจะมีจุดที่แตกต่าง คือเส้นโค้งของครอบแก้วด้านซ้ายจากหัวไหล่ถึงหูจะเป็นเส้นตรง ไม่ใช่เส้นโค้ง
จุดที่ 5 เส้นเว้าโค้งของขอบด้านในครอบแก้วด้านบนขวาองค์พระ เนื้อปูนจะยุบลงไปตามธรรมชาติของซุ้มครอบด้านใน เป็นการหดตัวตามธรรมชาติ หลักการนี้สามารถใช้ดูพระเก่าได้ทั้งหมด ถ้าใช้กล้องส่องดูเส้นขอบจะยุบเว้าลงไปเหมือนพรมกำมะหยี่นุ่ม ๆ มีหลายคนพยายามจะเลียนแบบการยุบตัวของเนื้อปูน โดยการใช้มีดไปเซาะให้เกิดหลุมเว้า แต่ก็ไม่เนียน เพราะสันขอบจะคม ไม่นุ่มเนียนเหมือนของเก่า
จุดที่ 6 องค์พระแม่พิมพ์พระสมเด็จวัดระฆังทั้ง 4 แบบ ขนาดหน้าอกทั้งสองข้างจะไม่เท่ากัน สังเกตจากรักแร้ขวาพระถึงหัวไหล่ขวาพระจะมีเนื้อหนากว่าด้านหน้าอกซ้ายพระ
จุด ที่ 7 ผ้าอาสนะรองนั่งเป็นเส้นพลิ้วคมบาง ฐานแรกยาวออกด้านขวามือมากกว่า และฐานสิงห์หมายถึงฐานชั้นกลางจะเชิดขึ้นในด้านขวาดูรับกับฐานแรกที่เชิด ขึ้นคล้ายหัวเรือ และฐานชั้นล่างก็จะใหญ่ทึบตัน ดูข้างซ้ายจะใหญ่กว่า มีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมู มีปลายงุ้มจิก ส่วนฐานล่างทางขวาพระจะเป็นสี่เหลี่ยมปลายแหลม มีเส้นแหลมที่มุมฐานล่างเป็นทิวไปชนซุ้มครอบแก้ว
ส่วนประเด็นที่มี การถกเถียงกันว่า พระแท้ลงรักปิดทองหรือไม่นั้น เซียนเธ้าบอกว่า พระสมเด็จวัดระฆังที่ลงรักปิดทองจะสวยมาก คาดว่าน่าจะเป็นเทคนิคในการพิมพ์ 10 องค์ ลงรัก 1 องค์ เพื่อจะได้ง่ายต่อการนับจำนวน
ปิดท้ายด้วย เกร็ดความรู้การสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง เรื่องมวลสารและการใช้ตอก (ไม้ไผ่) ตัด ตามความเชื่อที่ว่าตอกย้ำถึงความมั่นคง เป็นคำอวยพรให้ผู้ที่ได้รับ เนื้อผสมของมวลสารบางส่วนนำมาจากเศษไม้ไก่กุก ที่เกิดจากไก่ตัวผู้จะจิกไม้กระดานก่อนจะขึ้นคร่อมไก่ตัวเมีย เชื่อกันว่าเป็นไม้มหาเสน่ห์ หรือเมตตามหานิยมนั่นเอง
เซียนเธ้าไม่ เพียงแค่แนะนำวิธีดูพระเท่านั้น แต่ย้อนไปตั้งแต่กระบวนการสร้างแม่พิมพ์ กดพิมพ์ กระทั่งฤกษ์ปลุกเสก ละเมียดละไมในทุกขั้นตอน ด้วยเหตุนี้ พระสมเด็จวัดระฆัง จึงเป็นพระเครื่องยอดปรารถนาที่ทุกคนใฝ่ฝันจะได้ครอบครอง
คำเตือน ใครที่ยังไม่มีของจริงมาส่อง ก็ไม่ควรไปจ้องของปลอม เพราะถ้าเพ่งมองดูเป็นเวลานาน จะทำให้ติดตา เกิดการจดจำเลอะเทอะ อาจทำให้เข้าใจผิดว่า พระปลอม เป็นพระแท้ได้
ขอบคุณ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1336289668
http://www.pharaohamulet.com/images/prasomdej_nuephong/toymuengnon